นางรวิวัลย์ มารดาของด.ญ.ต้นหลิว กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้า
โดยมาเช่าบ้านในหมู่บ้านแม่ธรณีทอง รับจ้างซักผ้าทั่วไป รายชิ้น รายเดือน และอาศัยอยู่กันตามลำพังกับ ดญ.ต้นหลิว เพียงสองคน ในเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ ตนกำลังตากผ้าอยู่หน้าบ้านและกำลังเดินเข้าบ้านพักกับ ดญ.ต้นหลิว ปรากฏว่า มีสุนัขพันธุ์บางแก้วของเพื่อนบ้านวิ่งเข้ามากัดที่แขน ด.ญ.ต้นหลิว ทันที และงับที่ต้นแขนของลูกสาวตน งับแบบสะบัดอยู่หลายที ตนรู้สึกตกใจมาก รีบเข้ามาจับเจ้าสุนัขบางแก้วออก แต่จังหวะแรกคว้าได้แค่ขน สุนัขสะบัดหลุดไป แต่ยังกัดที่แขนลูกสาวตนอยู่ ด.ญ.ต้นหลิว ก็ตกใจร้องด้วยความเจ็บปวด
"จากนั้นตนก็มาคว้าที่ปลอกคอสุนัขบางแก้วตัวดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อช่วยด.ญ.ต้นหลิว เจ้าสุนัขหันมางับที่แขนซ้ายของตนหลายครั้งจนเลือดเต็มไปหมด ตนใช้ขาหนีบตัวสุนัขดังกล่าวไว้ เพื่อกันออกมาจากลูกสาว จังหวะนั้น เพื่อนบ้านชื่อจร ได้ยินเสียงตนและลูกสาวร้องอย่างดัง จึงรีบออกมาช่วย คว้าตัวเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวออกจากตน จากนั้นสุนัขบางแก้วก็วิ่งกลับไปที่บ้านเจ้าของที่อยู่ไม่ไกลนัก เจ้าของสุนัขทราบชื่อว่าตี๋และครูอ้อย ก็รีบปิดประตูรั้วขังสุนัขไว้ในบ้าน ช่วงนั้นตนและด.ญ.ต้นหลิว มีบาดแผลจากสุนัขกัดจนเลือดไหลมาก เพื่อนบ้านชื่อจรก็นำซ้อนรถจักรยานยนต์มารักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธชินราช" นางรวิวัลย์ กล่าว
นางรวิวัลย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ ตนและด.ญ.ต้นหลิว ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ตึกศัลยกรรม
หอผู้ป่วยออร์โธดิกส์หญิงและผู้ป่วย รพ.พุทธชินราช ดญ.ต้นหลิวถูกกัดที่ต้นแขนขวา มีแผนฉีกขาดกว้างหลายจุด กระดูกหัก 2 ท่อน แพทย์ได้เข้าเฝือกไว้ให้อยู่ ส่วนตนถูกกัดที่แขนซ้าย เหนือข้อมือ และยังไม่แน่ใจว่ายังต้องรักษาตัวที่รพ.พุทธฯอีกนานเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ตนได้พยายามเรียกร้องความรับผิดชอบจากเจ้าของสุนัขตัวดังกล่าว
ให้มาช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าทำขวัญ ดูแลความเป็นอยู่ของตน เบื้องต้นได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองพิษณุโลกไว้แล้ว และเจ้าของสุนัขก็แสดงเจตจำนงว่า จะรับผิดชอบค่าทำขวัญให้ โดยขอเวลาหาเงินก่อน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับค่าช่วยเหลือจากเจ้าของสุนัขแต่อย่างใด เพราะตนอยู่กันตามลำพังแค่สองแม่ลูก และประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้าทั่วไป มีรายได้เดือนละ 3,000-4,000 บาท ยังต้องเสียค่าเช่าบ้านอีกเดือนละ 1,500 บาท ช่วงที่ถูกสุนัขกัด ก็ต้องมารักษาตัวที่โรงพยาบาล และไม่สามารถประกอบอาชีพได้
นางรวิวัลย์ กล่าวด้วยว่า งรู้สึกตกใจกลัวกับเหตุการณ์นี้อย่างมาก เพราะเจ้าบู้บี้ สุนัขพันธุ์บางแก้วเพศผู้ตัวนี้ ตัวใหญ่มาก
และจู่ ๆ ก็เข้ามากัดลูกสาวและตนถึงบ้านพัก เจ้าตัวนี้เคยกัดคนบ่อยครั้ง แม้กระทั่งเจ้าของก็ยังเคยโดนกัด เจ้าของควรจะดูแลสุนัขของตนเองให้ดี ยิ่งถ้าสุนัขดุอย่างนี้แล้วด้วย ควรต้องป้องกันไม่ให้หลุดออกมาจากสถานที่เลี้ยงได้ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้กำจัดสุนัขตัวนี้พ้นจากหมู่บ้าน เพราะหลังจากนี้ ตนและลูกสาวก็ต้องออกจากโรงพยาบาลและไปประกอบอาชีพรับจ้างซักผ้าในหมู่บ้านนี้ต่อไป