แพทย์ใหญ่ตร.ออกโรงแถลงให้"หมอสุพัฒน์"ออกจากราชการ ส่งทีมโฆษกลงพื้นที่เยี่ยมดูแลสุขภาพ เผยผลตรวจโครงกระดูกแรกเพศชาย อายุ 35 ปี รอ2-3วันผลตรวจดีเอ็นเอยันผู้ตาย
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่รพ.ตร. พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) พร้อม พ.ต.อ.สุพล จงพาณิชย์กุลธร โฆษก รพ.ตร. และพ.ต.ท.หญิง ศิริกุล เจียรนัยขจร รองโฆษก รพ.ตร. ร่วมแถลงกรณีพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นพ.สบ 5 กลุ่มงานเวชศาสตร์และครอบครัว รพ.ตร. ผู้ต้องหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นเสียอิสรภาพ ลักทรัพย์หรือลักของโจร ฆาตกรรมและอำพรางศพนายสามารถ นุ่มจุ้ย และ น.ส.อรษา เกิดทรัพย์ 2 สามีภรรยาเจ้าของไร่สับปะรดว่า รพ.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับพ.ต.อ.สุพัฒน์ เนื่องจากถูกจับกุมและตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา โดยมอบหมาย พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ เสาวคนธ์ รอง พตร.(สบ 7) เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
พร้อมออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎก.ตร.ข้อ 3 (1) เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย โดยคำสั่งให้มีผลตั้งวันที่ 24 ก.ย. และมีผลย้อนหลังถึงวันที่ 22 ก.ย. หากอยู่ในตำแหน่งทำให้เสื่อมเสียต่อทางราชการตำรวจ ส่วนเรื่องการขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดนั้น พ.ต.อ.สุพัฒน์ ได้ทำเรื่องขอเอาไว้ก่อนตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา หากได้รับการอนุมัติจะได้เลื่อนขั้นเป็นพล.ต.ต. แต่เนื่องจากพ.ต.อ.สุพัฒน์ถูกดำเนินคดีอาญา ทำให้ขาดคุณสมบัติ ทางรพ.ได้ทำหนังสือขอยับยั้งการขอเกษียณก่อนกำหนดไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รับทราบต่อไป
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา เคยได้รับการร้องเรียนถึงพฤติกรรมพ.ต.อ.สุพัฒน์ หรือไม่ พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ได้สนิทสนมกันมาก แต่ในส่วนที่เป็นหน้าที่ทางด้านการแพทย์ พ.ต.อ.สุพัฒน์ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบระเบียบทั่วไปของรพ. และตลอดการทำงานมา 25 ปีได้รับการชมเชยจากคนไข้ว่าทุ่มเทเอาใจใส่ดี ส่วนการร้องเรียนเรื่องความประพฤติส่วนตัวนั้นยังไม่เคยได้รับการร้องเรียนอย่างเป็นทางการ และไม่เคยมีการสอบทางวินัย เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับอาชีพแพทย์ พ.ต.อ.สุพัฒน์เป็นผู้กระทำเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดจากพนักงานสอบสวนเพื่อให้ตนเข้าไปสอบปากคำ
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.สุพัฒน์เคยปรึกษาตนเรื่องที่มีปัญหากับนายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชาย เกี่ยวกับการเป็นผู้จัดการมรดกและการดูแลคุณแม่ที่อายุมากและป่วย และนายสุเทพก็เข้ามาร้องเรียนเรื่องดังกล่าว เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับน.ส.วิมล นุ่มจุ้ย เจ้าหน้าที่สถิติรพ.ตร. พี่สาวนายสามารถ หรือไม่ พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวคร่าวๆ และหลังเกิดเหตุ น.ส.วิมลได้ใช้สิทธิลาพักร้อน คาดว่าหลังมาทำงานตามปกติคงได้พูดคุยรายละเอียดกับน.ส.วิมลอีกครั้ง
เรื่องผลการตรวจสอบโครงกระดูกที่ส่งมาสถาบันนิติเวชก่อนหน้านี้นั้น พล.ต.ท.จงเจตน์ กล่าวว่า สถาบันนิเวชได้รับโครงกระดูกแค่ 1 โครง ส่วนอีก 2 โครงยังไม่ได้รับการส่งมาให้ตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าโครงกระดูกดังกล่าวเป็นเพศชายอายุประมาณ 35 ปี แต่ยังไม่สามารถระบุได้เป็นโครงกระดูกของใคร ต้องรอการตรวจหาดีเอ็นเอเปรียบเทียบก่อน โดยขณะนี้อยู่ขั้นตอนการบดย่อยสลายกระดูกเพื่อเอานิวเคลียสมาตรวจหาดีเอ็นเอ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 – 3 วันผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกันนี้ พล.ต.ท.จงเจตน์ ได้มอบหมาย พ.ต.อ.สุพล และ พ.ต.ท.หญิง ศิริกุล และคณะลงพื้นที่เข้าเยี่ยมพ.ต.อ.สุพัฒน์ เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่และสุขภาพด้วย