ไหม้เกาะพีพี-นักท่องเที่ยวนับพันโกลาหล

ไฟไหม้ใหญ่กลางเกาะพีพี นักท่องเที่ยวนับพันต้องช่วยกันดับไฟโกลาหล เพราะไม่มีรถดับเพลิง ใช้วิธีต่อแถวเรียงหนึ่งส่งอุปกรณ์ตักน้ำมือต่อมือจากริมหาดไปยังจุดเพลิงไหม้ กว่า 2 ช.ม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เสียหายไป 11 คูหา ต้นเพลิงมาจากร้านขายตั๋วทัวร์ ผวจ.กระบี่รุดบัญชาการเอง เผยโชคดีที่ไหม้กลางวัน ถ้าไหม้กลางคืนอาจสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากกว่านี้


พ.ต.ท.จักรา เสาวคนธ์รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจเกาะพีพีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 ก.พ. พ.ต.ท.จักรา เสาวคนธ์ สว.สภ.ต.เกาะพีพี อ.เมือง จ.กระบี่ รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจเกาะพีพีว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องแถวร้านค้าและบาร์เบียร์ที่อ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ต่อมานายศิวะ ศิริเสาวลักษ์ ผวจ.กระบี่ นายชัยเลิศ ภิญโญรัตนโชติ ปลัดจังหวัดกระบี่ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก.สภ.อ.เมืองกระบี่ นายโสภณ สุวรรณคราช ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ นายชัยศักดิ์ แสวงผล ผู้อำนวยการศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว อบจ.กระบี่ นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง นำเรือตรวจการณ์เดินทางมายังที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศช่วยกันดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ เนื่องจากบนเกาะพีพีไม่มีรถดับเพลิง โดยที่เกิดเหตุเป็นห้องแถว 2 ชั้นหลังคามุงสังกะสี ชั้นบนเป็นไม้ และบ้านชั้นเดียวสลับกัน ต้นเพลิงเริ่มจากร้านแดงแดงทัวร์ เลขที่ 125 หมู่ที่ 7 เกาะพีพี ต.อ่าวนาง ของนายแตง หลีช้างใต้ อายุ 54 ปี ไฟลุกไหม้ลามห้องแถวเชิงเขาติดกันไปเรื่อยๆ ประกอบกับลมกระโชกแรง และร้านค้าบางแห่งทำด้วยไม้มุงด้วยหญ้าคาแห้ง จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวต่างขนของหนีออกจากบ้านและร้านค้ามากองไว้ที่ชายหาด ผู้ประกอบการท่องเที่ยวและชาวบ้านเกาะพีพีช่วยกันขนถังดับเพลิงจากโรงแรมต่างๆ มาฉีด แต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงรื้ออาคารออก 2 ห้อง เพื่อเว้นช่องว่างไม่ให้เพลิงลุกลามไปย่านการค้าและโรงแรม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า


ในการดับเพลิงชาวบ้านและนักท่องเที่ยวทั้งชายและหญิงหลายร้อยคน ยืนเรียงแถวเรียงหนึ่งต่อๆ กัน 5 แถว จากริมชายหาดไปยังจุดเพลิงไหม้ และช่วยกันตักน้ำทะเลใส่ภาชนะต่างๆ ส่งมือต่อมือขึ้นไปดับไฟกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย

ขณะที่นายศิวะ ผวจ.กระบี่ ประสานขอเฮลิคอปเตอร์จากกองเรือภาคที่ 3 จ.ภูเก็ต บินมาโปรยสารเคมีดับไฟ แต่ไม่สามารถโปรยได้เนื่องจากมีผู้คนมาช่วยกันดับไฟจำนวนมากและสถานที่คับแคบ เกรงสารเคมีจะทำอันตรายแก่ผู้คน กระทั่งผ่านไปกว่า 2 ช.ม.จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ มีอาคารที่ถูกเพลิงไหม้ 11 หลัง และรื้อถอนเพื่อตัดไฟอีก 2 หลัง ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 10 ล้านบาท

จากการสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ต้นเพลิงเกิดมาจากร้านแดงแดงทัวร์ ซึ่งเปิดขายตั๋วเรือและนำเที่ยวแก่นักท่องเที่ยว ไฟฟ้าลัดวงจรจนเกิดเปลวเพลิง จากนั้นไฟก็ลุกลามไปยังห้องแถวที่อยู่ติดกันซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ รวมทั้งบริษัททัวร์ต่างๆ อย่างรวดเร็วดังกล่าว


ด้านนายก อบต.อ่าวนาง กล่าวว่า


อบต.อ่าวนางต้องหาวิธีป้องกันเพลิงไหม้ที่สามารถดับไฟได้อย่างฉับพลัน เนื่องจากไม่มีรถดับเพลิง โดยเตรียมสั่งซื้อเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ได้ แบบมีเครื่องสตาร์ตในตัว 3 ตัว ติดตั้งตามย่านชุมชน และย่านธุรกิจที่เป็นจุดเสี่ยงภัย คาดว่าต้องใช้งบประมาณจัดซื้อประมาณ 2 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งจัดซื้อและติดตั้งที่เกาะพีพีอย่างเร่งด่วนต่อไป

ต่อมา ผวจ.กระบี่และคณะพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัย ออกตรวจดูความเสียหาย สอบถามประชาชนและนักท่องเที่ยว โดย ผวจ.กระบี่ใช้โทรโข่งพูดเป็นภาษาอังกฤษขอบคุณนักท่องเที่ยวที่ช่วยกันดับไฟ สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้มีนักท่องเที่ยวหลายคนได้รับบาดเจ็บจากสังกะสี กระเบื้อง และก้อนหินบาดเจ็บ

ผวจ.กระบี่กล่าวด้วยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้โชคดีที่เกิดขึ้นในเวลากลางวัน จึงสามารถหนีไฟได้ ถ้าเหตุเกิดขึ้นกลางคืนอาจมีผู้บาดเจ็บล้มตาย ซึ่งทางจังหวัดต้องหาวิธีการแก้ปัญหาหากเกิดเหตุร้ายแรงที่เกาะพีพี เช่น น้ำท่วม หรือไฟไหม้ เนื่องจากพื้นที่คับแคบ ไม่มีทางหนีน้ำหรือหนีไฟ จึงจำเป็นที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลเกาะพีพีต้องหามาตรการหาเครื่องมือดับเพลิงที่ไม่ใช่รถดับเพลิง แต่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ารถดับเพลิง เช่น เครื่องสูบน้ำกำลังสูง หรือติดตั้งสารเคมีดับไฟอย่างทั่วถึงโดยด่วน ในส่วนผู้ที่ไร้ที่พักอาศัยประมาณ 10 ครอบครัว ขณะนี้สั่งการให้นำเต็นท์มาติดตั้งเป็นที่พักชั่วคราวไปก่อน

ขอขอบคุณ


ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์