ผงะ!พบศพยัดถุงปุ๋ยฝังดินในไร่ พ.ต.อ. ที่ท่ายาง-หลังมีพยานระบุอาจเป็นจุดฝัง2ผัวเมีย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ผงะ!พบศพยัดถุงปุ๋ยฝังดินในไร่ พ.ต.อ. ที่ท่ายาง-หลังมีพยานระบุอาจเป็นจุดฝัง2ผัวเมีย
จากกรณีนายสามารถ นุ่มจุ้ย และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ ภรรยา เจ้าของไร่สับปะรดใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
หายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 ต่อมาตำรวจพบรถของสองผัวเมียจอดทิ้งในบ้านร้าง อ.เมืองนนทบุรี จึงรื้อคดีขึ้นมาสอบสวนโดยพบว่าก่อนเกิดเหตุมีปัญหากับพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ นพ.สบ 5 กลุ่มงานเวชศาสตร์และครอบครัว ร.พ.ตำรวจ ซึ่งมีไร่อยู่ติดกัน ต่อมานายสุเทพ เลาหะวัฒนะ พี่ชายพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ระบุว่าบ้านที่พบรถเป็นของมารดา ในขณะที่ตำรวจภาค 7 ได้รับเบาะแสจากพยานว่าศพ 2 ผัวเมียอาจจะถูกฝังบริเวณกอไผ่ในไร่ของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ด้านต้นสังกัดของตำรวจนายแพทย์คนดังกล่าวระบุว่าพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ยื่นเรื่องขอเออร์ลี่รีไทร์ มีผลวันที่ 30 ก.ย.นี้ ส่วนตอนนี้ยื่นลาพักร้อนไม่สามารถติดต่อได้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ก.ย. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภาค 7 พร้อมด้วยพล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบก.สส.ภาค 7 พล.ต.ต.จุตติ ธรรมโนวานิช รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นำกำลังประมาณ 100 นายพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดเพชรบุรี เลขที่ 664/555 วันที่ 20 ก.ย. 2555 เข้าตรวจค้นบริเวณไร่และบริเวณบ้านพักของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลขที่ 65 และเลขที่ 225 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจหาหลักฐานหลังมีพยานให้ข้อมูลว่าน่าจะพบเบาะแสภายในบริเวณไร่ดังกล่าว
บ้านของพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ถูกต่อเติมและเลี้ยงสัตว์ ประกอบด้วย วัว หมูป่า กวาง และม้า นับสิบตัว อยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่ไม่พบคนอยู่ภายใน ตำรวจจึงให้ผู้ใหญ่บ้านและปลัด อบต.กลัดหลวง ร่วมเป็นพยานในการตรวจค้นพร้อมติดต่อนายแก้ว คนดูแลบ้านมารับหมายและพาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ โดยนายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดาของนายสามารถ และนายสุธยา เกิดทรัพย์ อายุ 33 ปี พี่ชายน.ส.อรษา ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้วย
จุดแรกภายในบริเวณบ้านที่ตู้เก็บของพบอาวุธยาวติดลำกล้องหลายขนาด อาทิ ปืนไรเฟิล ปืนลูกซอง จำนวน 30 กระบอก วางเก็บไว้ในตู้พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบอาวุธปืนพกสั้นหลายขนาดเก็บบรรจุอยู่ในกล่องอย่างดีวางไว้บนเบาะนั่งอยู่ในรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฮข 3648 กรุงเทพฯ ที่จอดอยู่ในลานหน้าบ้านจำนวน 12 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน จึงตรวจสอบและเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังพบรถปิกอัพตอนครึ่ง สีเขียว 1 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เรือ 1 ลำ และรถแบ๊กโฮ สีเหลือง ยี่ห้อ JCB 1 คัน หลังตัวบ้านยังมีคอกสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วยวัว 14 ตัว ม้า 3 ตัว หมูป่า 8 ตัว และกวาง 2 ตัว
จากนั้นตำรวจนำรถแบ๊กโครที่ได้ว่าจ้างมาเดินทางไปขุดดินบริเวณกอไผ่ขนาดใหญ่และติดกับคลองส่งน้ำขนาดเล็กกลางไร่ ซึ่งเป็นจุดที่พยานให้เบาะแสว่าเป็นที่ฝังศพนายสามารถและภรรยา โดยรถขุดตักดินอยู่เพียง 5 นาทีลึกประมาณ 2 เมตร พบถุงปุ๋ยขนาดใหญ่ฝังอยู่ 2 ใบจึงนำขึ้นมาเปิดออกดู และต้องตกตะลึงเพราะพบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ภายใน ถุงแรกมีกะโหลกมนุษย์ สภาพเก่าและซี่โครงท่อนบนจำนวนหนึ่ง และมีซิปเสื้อติดอยู่ด้วย ส่วนถุงปุ๋ยใบที่ 2 เป็นโครงกระดูกตั้งแต่ท่อนล่างจากสะโพกถึงขา เบื้องต้นแพทย์ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศหญิงหรือชาย แต่เท่าที่มองสภาพด้วยสายตาน่าจะเป็นศพผู้ชาย
นายสว่างกล่าวว่า โครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นลูกชาย เพราะจำซิปเสื้อที่ลูกชายใส่ได้ ขณะที่นายสุธยาเมื่อเห็นโครงกระดูกถึงกับมีอาการเซ และร้องไห้ออกมา โดยเผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับน้องสาวและน้องเขย อยากให้ตำรวจเร่งตรวจสอบดีเอ็นเอว่าเป็นใครกันแน่
ตำรวจให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจ เขต 16 เพชรบุรี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน จ.เพชรบุรี และแพทย์ ร.พ.ท่ายาง นำโครงกระดูกที่พบไปตรวจสอบหาดีเอ็นเอ เปรียบเทียบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร
พล.ต.ท.หาญพลกล่าวว่า ศพที่พบยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นนายสามารถ หรือน.ส.อรษา ที่หายตัวไป เพราะไม่มีหลักฐานบ่งชี้ชัด เนื่องจากศพที่พบคาดว่าเสียชีวิตมานาน ต้องรอผลจากสถาบันนิติเวชตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอเสียก่อน สำหรับการขุดพบศพตามคำให้การของพยาน ซึ่งทางตำรวจต้องขอปิดเป็นความลับ แต่เมื่อพบศพจะต้องออกหมายเรียกตัวพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เจ้าของบ้านมาสอบสวน รวมทั้งอาวุธปืนจำนวนมากที่พบในบ้านและในรถตู้ เจ้าของบ้านต้องนำหลักฐานการได้มาและครอบครองอาวุธปืนมาแสดง หากไม่มีหลักฐานมาแสดงจะมีความผิดตามกฎหมายแน่นอน
ผบช.ภาค 7 กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้รับรายงานจากตำรวจที่มาเฝ้าบริเวณบ้านและไร่ดังกล่าวว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์เดินทางมาจะเข้าบ้านและขอนำรถตู้ที่ตำรวจพบปืนซุกอยู่ออกไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตเนื่องจากอาจมีการเคลื่อนย้ายหรือทำลายพยานหลักฐาน กระทั่งช่วงเช้าวันนี้พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์โทรศัพท์เข้ามาหาถามว่าจะเข้าค้นบ้านวันนี้ใช่ไหม ตอบว่าใช่ ซึ่งพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์บอกว่าค้นได้เลยโดยไม่ต้องมีหมายค้นก็ได้ แต่ตำรวจอธิบายว่าต้องมีหมายค้นจากศาลตามกฎหมาย และเชิญพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์มาดูการตรวจค้นด้วย แต่พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ไม่ได้เดินทางมา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าตอนนี้ยังไม่ได้หลบไปไหน