“เฉลิม” สั่งห้าม “พ.ต.อ.นพ.”พันคดีอุ้มฆ่าออกนอกประเทศ

วันนี้ (19 ก.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ สว.เพชรบุรี นำนายสว่าง นุ่มจุ้ย เข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เร่งสืบสวนคลี่คลายคดี ที่นายสามารถ นุ่มจุ้ย อายุ 30 ปี และน.ส.อรษา เกิดทรัพย์ อายุ 30 ปี บุตรชายและสะใภ้ ซึ่งหายตัวไปพร้อมรถกระบะโตโยต้า ไทเกอร์สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บฉ-5960 เพชรบุรี ตั้งแต่เดือนก.ย. 2552 โดยได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2552 แต่ไม่มีความคืบหน้า โดยหนังสือขอความช่วยเหลือระบุว่านายสามารถ และ น.ส.อรษา ทำงานเป็นลูกจ้างในไร่สับปะรดของ พ.ต.อ.นพ. สังกัดโรงพยาบาลตำรวจ  ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยขอให้ ร.ต.อ.เฉลิม สั่งการเร่งขุดหาศพ เชื่อว่ายังคงอยู่ในไร่ดังกล่าว และหาตัวผู้ที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทันทีที่ยื่นหนังสือแล้วเสร็จ ร.ต.อ.เฉลิม ได้โทรศัพท์สั่งการไปยัง ผบช.สตม. ให้ระงับการเดินทางออกนอกประเทศ ของ พ.ต.อ.นพ.คนนี้แล้ว เพื่อป้องกันการหลบหนีออกนอกประเทศ และโทรศัพท์ไปยัง ผบช.ภ.7 ให้มีการคุ้มครองพยาน ครอบครัวผู้สูญหาย และปิดล้อมพื้นที่ต้องสงสัยไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายศพหรือทำลายหลักฐาน โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สิ่งแรกคือต้องเร่งหาศพเพราะเป็นหลักฐานสำคัญในการคลี่คลายคดี และไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือใคร ประพฤติอย่างนี้ก็ต้องได้รับโทษ รับรองว่างานนี้จะต้องได้รับความเป็นธรรม ยุคพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะต้องไม่มีอิทธิพล และไม่มีใครมาสั่งตนเองได้.