วันนี้ (17 ก.ย.) ร.ต.อ.สุพัฒนชัย นภาสกุล ร้อยเวร สภ.ย่อยบ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
รับแจ้งมีชายกินตะขาบเป็น ๆ แล้วช็อกเสียชีวิต ที่ด้านหลังโรงเรียนบ้านคำไฮหัวทุ่งประชาบำรุง หมู่ 23 ต.บ้านเป็ด รุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรจาก รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิขอนแก่นสามัคคีอุทิศ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุมีหญ้าขึ้นปกคลุมไปทั่วบริเวณ บนแคร่ไม้พบศพนายวรรณเสด็จ กองกุล อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/2 หมู่ที่ 6 บ้านคำไฮหัวทุ่ง ต.บ้านเป็ด นอนหงายเสียชีวิต สภาพใบหน้าเขียวจนออกเป็นสีดำ ตามร่างกายเขียวช้ำคล้ายโดนพิษ คาดเสียชีวิตมาประมาณ 1 ชั่วโมง
จากการสอบสวนนายสมาน ทะวิลา อายุ 57 ปี เพื่อนรุ่งพี่ผู้ตายให้การว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าตนมารับจ้างตัดหญ้าในที่เกิดเหตุ
ส่วนนายวรรณเสด็จนั่งซดเหล้าขาวกับเพื่อนอีกคนในกระท่อมใกล้กัน กระทั่งใกล้เที่ยงนายวรรณเสด็จเมาได้ที่ ได้เดินมาช่วยตนตัดหญ้า ระหว่างนั้นนายวรรณเสด็จเหลือบไปเห็นตะขาบ ตัวขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งผู้ใหญ่บนพื้นหญ้า นายวรรณเสด็จบอกว่าเคยกินตะขาบมาแล้ว
จากนั้นไม่พูดพรำทำเพลงคว้าตัวตะขาบขึ้นมา ตะขาบเลยกัดที่นิ้วของนายวรรณเสด็จ ผู้ตายเลยโมโหบอกให้ตนไปตักน้ำมาให้ขันหนึ่งเพื่อล้างตัวตะขาบ
นายสมานให้การต่อว่า จากนั้นนายวรรณเสด็จหยิบตะขาบใส่ปาก เคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย สักพักผ่านไปประมาณ 20 นาที นายวรรณเสด็จมีอาการเวียนศีรษะและอ้วกออกมา แต่ไม่มีเศษอาหารหรือตะขาบออกมา มีแต่เหล้าขาวส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง จนนอนฟุบไปบนหญ้า ตนเลยลากเพื่อนไปนอนบนแคร่ และปล่อยให้นายวรรณเสด็จนอนสักพักเพราะคิดว่าอาการคงดีขึ้น พอตนตัดหญ้าไปราว 2 ชั่วโมง กลับมาดูนายวรรณเสด็จพบว่านอนตัวเขียวและเสียชีวิตไปแล้ว เลยรีบแจ้งตำรวจทราบดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่าหลังจากนายวรรณเสด็จกินตะขาบเข้าไป พิษคงเข้ากระแสเลือดจนทำให้เสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามจะส่งศพไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
ด้าน ศ.นพ.อิศรางค์ นุชประยูร หน่วยปฏิบัติการวิจัยด้านพิษงูและงูพิษกัด คณะแพทยศาสตร์
ระบุว่า กรณีนี้เป็นไปได้ว่าผู้ตายแพ้พิษตะขาบ ซึ่งเกิดขึ้นกับบางคนเท่านั้น เพราะพิษตะขาบไม่ได้รุนแรงทำให้เสียชีวิตทันที ส่วนการกินตะขาบที่เด็ดหัวกับหางแล้ว คงไม่มีผลกระทบต่อร่างกาย.