ไม่มีชายชุดดำใน98ศพ
ไม่มีชายชุดดำใน98ศพ
การถกเถียงเรื่องชายชุดดำในเหตุการณ์ 98 ศพ ยังคงดำเนินต่อไป เพราะฝ่ายพรรคประชา ธิปัตย์
ยังคงยืนกรานว่ามีผู้ก่อการร้ายในม็อบเสื้อแดง เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์มีความชอบธรรมในการใช้เจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธจริงเข้าคลี่คลายสถานการณ์ในปี 2553
ล่าสุดมีการท้าทายให้เปิดหลักฐานนำมาสู่การโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดง ระหว่างแกนนำของ 2 ฝ่าย
การพิสูจน์ทราบชายชุดดำ จะต้องทำกันให้ถึง ที่สุด
เพียงแต่จะนำมาขยายภาพเพื่อกลบเกลื่อนความตายของคน 98 ชีวิต ไม่ได้เป็นอันขาด
ต้องเริ่มจากข้อเท็จจริงว่า คนตาย 98 ศพนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ทหารราว 10 นาย ที่เหลือเป็นประชาชนและผู้ชุมนุม
กล่าวรวมทั้งหมด 98 ศพ ระบุได้ว่า ไม่มีศพไหนเป็นชายชุดดำ ไม่มีศพไหนที่มีอาวุธปืนสงครามร้ายแรงเลย!
นักข่าวที่เห็นเหตุการณ์จริงในสนาม เห็นความจริงมากกว่า 2 ผู้นำศอฉ. ที่หมกตัวรอฟังรายงานอยู่ในราบ 11 อย่างแน่นอน
ได้บันทึกภาพผู้ชุมนุมมากมาย ที่ถือหนังสติ๊ก ถือขวดน้ำมัน ถือบั้งไฟ อยู่ตามบังเกอร์ยางรถยนต์
ถ่ายได้ไม่กี่นาที คนนั้นก็ถูกอาวุธปืนราชการยิงตาย
เห็นชัดๆ หลายต่อหลายราย แถมนักข่าวบางรายก็โดนยิงด้วย เห็นด้วยตาเขาเองว่าเจ้าหน้าที่รัฐนั่นแหละที่วิ่งเข้ามายิง
เอาเป็นว่าผู้มีอำนาจในศอฉ.ที่หมกตัวในราบ 11 คงเชื่อตามรายงาน และเห็นคลิปแวบๆ ว่ามีชายชุดดำ
เลยสรุปว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์สลายการชุมนุม แต่ฟันธงว่าเป็นสถานการณ์ปราบผู้ก่อการร้าย!
จึงอนุมัติให้ใช้อาวุธจริง
พอตอนจบ ตายเกลื่อนเกือบร้อยศพ
แต่ไม่มีผู้ก่อการร้ายเลย
วิธีเอาตัวรอดก็คือ ยืนยันว่ามีชายชุดดำจริงๆ มีผู้ก่อการร้ายจริงๆ มีความจำเป็นต้องปราบจริงๆ
แต่ไม่ยอมรับว่า ที่ตายเกลื่อนนั้น ไม่ใช่ผู้ร้ายเลย
ดังที่เคยยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ มาก่อนแล้วนั่นแหละ
เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่ามีคนร้ายจี้จับตัวประกัน
บุกไปถึงก็ยิงแหลก ตายเกลื่อน สุดท้ายมีแต่ตัวประกันที่ตาย
แต่คนร้ายไม่รู้ไปไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกี่คน
จะให้จบคดีแบบว่า ก็มันมีคนร้ายจริงๆ นะ แค่นั้นหรือ!?
ล่าสุดมีการท้าทายให้เปิดหลักฐานนำมาสู่การโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดง ระหว่างแกนนำของ 2 ฝ่าย
การพิสูจน์ทราบชายชุดดำ จะต้องทำกันให้ถึง ที่สุด
เพียงแต่จะนำมาขยายภาพเพื่อกลบเกลื่อนความตายของคน 98 ชีวิต ไม่ได้เป็นอันขาด
ต้องเริ่มจากข้อเท็จจริงว่า คนตาย 98 ศพนั้น เป็นเจ้าหน้าที่ทหารราว 10 นาย ที่เหลือเป็นประชาชนและผู้ชุมนุม
กล่าวรวมทั้งหมด 98 ศพ ระบุได้ว่า ไม่มีศพไหนเป็นชายชุดดำ ไม่มีศพไหนที่มีอาวุธปืนสงครามร้ายแรงเลย!
นักข่าวที่เห็นเหตุการณ์จริงในสนาม เห็นความจริงมากกว่า 2 ผู้นำศอฉ. ที่หมกตัวรอฟังรายงานอยู่ในราบ 11 อย่างแน่นอน
ได้บันทึกภาพผู้ชุมนุมมากมาย ที่ถือหนังสติ๊ก ถือขวดน้ำมัน ถือบั้งไฟ อยู่ตามบังเกอร์ยางรถยนต์
ถ่ายได้ไม่กี่นาที คนนั้นก็ถูกอาวุธปืนราชการยิงตาย
เห็นชัดๆ หลายต่อหลายราย แถมนักข่าวบางรายก็โดนยิงด้วย เห็นด้วยตาเขาเองว่าเจ้าหน้าที่รัฐนั่นแหละที่วิ่งเข้ามายิง
เอาเป็นว่าผู้มีอำนาจในศอฉ.ที่หมกตัวในราบ 11 คงเชื่อตามรายงาน และเห็นคลิปแวบๆ ว่ามีชายชุดดำ
เลยสรุปว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์สลายการชุมนุม แต่ฟันธงว่าเป็นสถานการณ์ปราบผู้ก่อการร้าย!
จึงอนุมัติให้ใช้อาวุธจริง
พอตอนจบ ตายเกลื่อนเกือบร้อยศพ
แต่ไม่มีผู้ก่อการร้ายเลย
วิธีเอาตัวรอดก็คือ ยืนยันว่ามีชายชุดดำจริงๆ มีผู้ก่อการร้ายจริงๆ มีความจำเป็นต้องปราบจริงๆ
แต่ไม่ยอมรับว่า ที่ตายเกลื่อนนั้น ไม่ใช่ผู้ร้ายเลย
ดังที่เคยยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ มาก่อนแล้วนั่นแหละ
เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่ามีคนร้ายจี้จับตัวประกัน
บุกไปถึงก็ยิงแหลก ตายเกลื่อน สุดท้ายมีแต่ตัวประกันที่ตาย
แต่คนร้ายไม่รู้ไปไหน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกี่คน
จะให้จบคดีแบบว่า ก็มันมีคนร้ายจริงๆ นะ แค่นั้นหรือ!?