เมื่อวันที่ 6กันยายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.ดูแลงานกฎหมายและสอบสวน และ พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 ร่วมสรุปผลสอบสวนวินัย พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ หลังจากนำตัว นายสุเวศ หอมอุบล พ่อบ้านของตระกูลอยู่วิทยา มาสวมรอยมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ทางคณะกรรมการตัวสอบข้อเท็จจริงได้ส่งสำนวนดังกล่าวมาแล้ว โดยส่งมาตามสายงานไปยัง บก.น.5 โดยทาง บก.น.5 ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงต่างๆ และสรุปว่า พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ มีมูลกระทำความผิดจริงและให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพราะหากให้รับราชการอยู่อาจเกิดความเสียหายและกระทบต่อการสอบสวนทางวินัย รวมทั้งกระทบต่อขวัญกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้
ด้าน พล.ต.ต.กฤษฏิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมีความเห็นพ้องต้องกันว่า
พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ ส่อเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้รับโทษ มีความผิดขั้นรุนแรง จึงเสนอรายงานขึ้นมา พร้อมกับตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความผิดวินัยอย่างร้ายแรงอีกชุด โดยมี รอง ผบก.น.5 จำนวน 10 ท่าน มี พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รอง ผบก.น.5 เป็นหัวหน้าชุด โดยจะใช้เวลาสอบสวนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 30 วัน
ส่วนในเรื่องคดีความนั้น พล.ต.ต.อนุชัย เปิดเผยว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา ผู้ต้องหา
มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่ากฎหมายกำหนด และได้แจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อหา“ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต” ซึ่งโทษรวมจะเพิ่มขึ้น อัตราขั้นต่ำ 3 ปี และสูงสุดถึง 10 ปี ส่วนผลตรวจสอบความเร็วของรถคันเกิดเหตุนั้น ยังไม่ออกมา
สำหรับเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราวนั้น พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ตามกฎหมาย ที่ตัวผู้ต้องหายื่นประกันได้
ทางพนักงานสอบสวนต้องพิจารณาตามกฎหมาย ป.วิอาญา คือ ถ้ามีหลักทรัพย์และผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนีก็สามารถประกันตัวได้ ส่วนจะมีเจตนาก่อเหตุหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังมีหลักฐานไม่เพียงพอ รายละเอียดบางอย่างไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะที่เรื่องสำนวนคดีเชื่อว่าจะไม่มีการเบี่ยงเบนและความเป็นธรรมต้องเกิด เพราะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ ได้เดินทางมาที่ บช.น.
เพื่อส่งสำนวนคดีดังกล่าวพร้อมเปิดเผยว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พอใจผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้แนบความเห็นว่าโดยตำแหน่งหน้าที่แล้วควรมีวิจารณญาณในการพิจารณาได้ว่าผู้ที่มามอบตัวเป็นตัวปลอมหรือไม่ จึงให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมยืนยันว่าการสอบสวนดำเนินการตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่มีการช่วยเหลือแต่อย่างใด
พ.ต.อ.ชุมพล ยังได้กล่าวถึงข้อต่อสู้ของทางทนายที่ระบุว่า ปริมาณแอลกอฮอล์ของนายวรยุทธที่พบ เป็นการดื่มหลังเกิดเหตุ
เนื่องจากเกิดความเครียดนั้น เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถให้การได้ แต่เมื่อคดีเข้าสู่ชั้นศาลก็จะมีการนำสืบพยานต่อไป ส่วนกรณีที่พ่อบ้านซึ่งอ้างว่าตัวเป็นคนขับคันดังกล่าวพุ่งเข้าชนตำรวจเสียชีวิต แต่กลับคำให้การในชั้นอัยการนั้น ในส่วนของการสอบวินัยพ่อบ้านจะต้องมาให้การกับคณะกรรมการสอบวินัยและขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลอีกครั้ง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
