บุกขึ้นอำเภอ อส.รัวฆ่าสาว!

สยองเมืองโคราชหนุ่มอส.รักคุดบุกยิงเพื่อนสาวตายคาโต๊ะทำงาน แล้ว กราดยิงเพื่อนฝ่ายหญิงอีก 2 ราย ได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน

หลังก่อเหตุเดินถือปืนใจเย็น กลับเข้าไปนั่งทำงานที่ห้องวิทยุสื่อสาร ปิดล็อกประตูห้อง ก่อนตัดสินใจใช้ทูตมรณะ .38 กระบอกเดียวกันระเบิดสมองตัวเองตายตาม ตะลึงพบเตรียมพวงหรีด กระถางธูปและรูปถ่ายวางรอไว้เสร็จสรรพ ตร.สอบพบปมรักไม่สมหวัง หลงรักฝ่ายสาวอายุอ่อนกว่าเป็น 10 ปี แถมยังถูกเพื่อนฝ่ายหญิงกีดกัน สุดท้ายจึงระเบิดอารมณ์กราด ยิงดะ

เมื่อเวลา 08.40 น. วันที่ 5 ก.ย. ร.ต.ต.ชาญวงศ์ สวัสดิ์อาภา ร้อยเวร สภ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา

รับแจ้งเหตุยิงกันตาย เหตุเกิดภายในที่ว่าการอำเภอชุมพวง จึงรายงานพ.ต.อ.สมภพ พิทักษ์ประชาชน ผกก. รับทราบ พร้อมประสานฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบไทยมุงจำนวนมากมุงดูเหตุ การณ์อยู่ ท่ามกลางความตกตะลึงของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอ โดยที่ห้องทำงานกลุ่มงานปกครองชั้น 2 พบศพน.ส.ธัญลักษณ์ สายใหม่ เจ้าหน้าที่งานปกครอง ตำแหน่งเสมียนตราอำเภอชุมพวง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ราวนมด้านซ้าย กระสุนตัดขั้วหัวใจ และที่ช่องท้องอีกหลายนัด เสียชีวิตคาที่ นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บถูกยิงอีก 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่เสมียนตราเช่นกัน ทราบชื่อคือ น.ส.ละอองทิพย์ สดกลาง ถูกยิงเข้าที่ไหล่ขวา และน.ส.สุนิสา แซ่ลี้ ถูกยิงเข้าที่ไหล่ซ้าย พลเมืองดีหามส่งร.พ.ชุมพวงไปก่อนหน้านั้น ก่อนย้ายไปรักษาต่อยังร.พ.มหา ราชนครราชสีมา

สำหรับคนร้ายรายนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายยิ่งเจริญ ตีบนอก อายุ 47 ปี

นายหมู่ใหญ่อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอชุมพวง ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประจำห้องวิทยุสื่อสาร เป็นคนลั่นไกสังหาร หลังเกิดเหตุนายยิ่งเจริญ หลบเข้าไปในห้องวิทยุ ก่อนใช้ปืน .38 กระบอกเดียวกันยิงขมับตัวเองตายตาม เป็นศพในสภาพสวมเครื่องแบบเต็มยศ เจ้าหน้าที่จึงส่งศพผ่าพิสูจน์หาหลักฐานต่อไป

นอกจากนี้ ในห้องทำงานของมือปืนยังพบพวงหรีด 2 พวง กระถางธูป แผ่นเพลงธรณี

และรูปถ่ายหน้าตรงของนายยิ่งเจริญสวมเครื่องแบบเต็มยศวางไว้ในห้องอีกด้วย แสดงว่ามือปืนเตรียมการมาเป็นอย่างดี และทำไปด้วยความคับแค้นใจ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่านายยิ่งเจริญ ได้บรรจุกระสุนยิงเหยื่อและยิงตัวเองถึง 2 โม่ด้วยกัน

พยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 วัน มีคนเห็นนายยิ่งเจริญซื้อพวงหรีดและนำรูปถ่ายและกระถางธูปมาวางไว้ในห้องทำงาน

กระทั่งเช้าวันเกิดเหตุหลังจากที่มือปืนทำหน้าที่แม่ข่ายวิทยุเช็กสัญญาณความชัดเจนลูกข่ายเสร็จสิ้น นายยิ่งเจริญได้เดินถืออาวุธปืนพกประจำกาย ออกจากห้องสื่อสาร ตรงเข้าไปที่โต๊ะทำงาน ของน.ส.ธัญลักษณ์ ก่อนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่หลายนัด จนเหยื่อกระเด็นตกจากโต๊ะเสียชีวิตคาที่ จากนั้นได้เดินตรงไปที่โต๊ะทำงานของ น.ส. ละอองทิพย์กับน.ส.สุนิสา ใช้อาวุธปืนยิงใส่ทั้ง 2 จนล้มฟุบลง ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตนเองอย่างใจเย็นปิดประตูล็อก แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตายในที่สุด

จากการสอบสวนนายชุน ช่อทองหลาง อายุ 50 ปี ผู้บังคับบัญชานายยิ่งเจริญ กล่าวว่า

ก่อนหน้านี้นายยิ่งเจริญ เคยมาระบายความในใจที่ไปหลงรักน.ส.ละอองทิพย์ให้ฟัง ซึ่งความรักไม่สมหวัง เพราะฝ่ายหญิงอายุอ่อนกว่าเป็น 10 ปี อีกทั้งนายยิ่งเจริญก็แต่งงานมีครอบครัวอยู่แล้วและเพิ่งเลิกรากัน ทำให้น.ส.ธัญลักษณ์และน.ส.สุนิสา ซึ่งเป็นกลุ่มเพื่อนไม่สนับสนุน มักจะกีดกันไม่ให้นายยิ่งเจริญไปสนิทสนมกับน.ส.ละอองทิพย์ และมักจะพูดจาต่อว่าบ่อยครั้ง จนเจ้าตัวเกิดความคับแค้นใจ ซึ่งอาจจะเป็นชนวนเหตุให้นายยิ่งเจริญก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็น คือ เรื่องของความขัดแย้งส่วนตัวตามที่ทางผู้บังคับบัญชานายยิ่งเจริญให้การ และปัญหาความขัดแย้งในเรื่องการทำงาน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างละเอียดต่อไป