เมื่อถามว่ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอขุดศพลูกชายขึ้นมาพิสูจน์อีกครั้ง นายชาดากล่าวว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่กระทบกระเทือนจิตใจตนมาก ในวันแรกที่เกิดเหตุไม่มีใครมาสอบถามเลย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาหาก็คุยกับน้องสาวตนที่อยู่โรงพยาบาล ทางเราก็บอกว่ายินดีตั้งแต่ครั้งแรก แต่เจ้าหน้าที่อยู่ที่นั่นก็บอกว่าเอาเฉพาะบริเวณปากแผล ซึ่งมีดินปืน เขม่าอะไรต่างๆ ในรถมีหัวกระสุนอยู่นัดหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นแล้ว เราก็ประกาศว่าให้รีบทำภายในวันเดียว เขาก็บอกว่าเพียงพอแล้ว เรื่องนี้ฟังแล้วตลก ไม่ทราบว่าข่าวมาจากทางไหนว่าจะมาขุดศพลูกชายตนมาพิสูจน์ ให้ไปหาปืนคนร้ายให้เจอดีกว่า เพราะคนร้ายรับสารภาพแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะเอาหัวกระสุน ตรงนี้ไม่ใช่ประเด็นที่สำคัญ
“ทางหลักศาสนาอิสลามแค่กล่าวถึงก็เป็นเรื่องที่ไม่ให้เกียรติกันแล้ว ผมบอกว่าทำใจได้ที่ลูกชายเสียชีวิต แต่ไม่ยอมและทำใจไม่ได้ที่จะมาทำกับศพลูกแบบนี้ ในความเป็นพ่อต้องปกป้องอย่างเต็มที่ ซึ่งศพลูกชายผมไม่ใช่สาระสำคัญของคดี ไปหาปืนดีกว่า ขุดขึ้นมาแล้วจะเจอปืนหรือไม่ เป็นการโยนหินถามทางกันมากกว่า เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เกิดจากที่ปรึกษากฎหมายของผู้ต้องหาแน่นอน และเชื่อว่าจุดนี้จะมีผลต่อการเจอปืนหรือไม่เจอปืน คำตอบอยู่ในนี้ ขอบอกว่าผมเองทำใจกับเรื่องนี้ได้ แต่อย่าให้เหตุลักษณะแบบนี้เกิดขึ้น เพราะถือว่าให้อภัยกับผู้ที่ก่อเหตุแล้ว เพราะเป็นเรื่องที่จบไปแล้ว แต่อย่ามาสร้างเรื่องสตรอรี่เรื่องยาวให้เป็นที่คลางแคลงใจกัน” นายชาดากล่าว
ต่อข้อถามว่าขณะที่ยืนยันว่ารถผู้ต้องหามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่าหนึ่งคน แต่ทางฝ่ายสืบสวนระบุว่ามีคนเดียว จะหาข้อเท็จจริงอย่างไร
นายชาดาตอบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ยืนยันว่ามีคนเดียว แต่คนร้ายให้การอย่างนี้ก็เป็นสิทธิ เขาคงไม่เอาใครมาเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย ก็รับคนเดียวไป ซึ่งตนก็เข้าใจว่าเทคนิคการสู้คดีเขาจะมีเหตุอะไรที่จะเอาผู้ร่วมก่อเหตุมามอบตัวด้วย แต่ทั้งตนและญาติก็ยืนยันว่าเห็นจริงๆ เห็นคนร้ายจี้ปืนใส่มาที่ตนด้วย และตนจำหน้าแม่นมาก ขอย้ำว่าจำหน้าได้แม่นมาก และเป็นเหตุการณ์ที่ตนจินตนาการไม่ได้ ว่าไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อถามย้ำว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหาคนร้ายอีกคนไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไร นายชาดากล่าวว่า ถือเป็นผู้ร่วมขบวนการ ไม่ได้ติดใจอะไร ต้องพิสูจน์ต่อไปในวันข้างหน้า หากตนเจอตัวก็อาจต้องชี้ให้เจ้าหน้าที่จับ
“อย่างไรก็ตามอยากให้ทุกคนลองนึกว่าถ้าเป็นผมตายไปข่าวจะใหญ่หรือไม่ ถ้ากลายเป็นเหตุที่เกิดจากจิ๊กโก๋ข้างถนนเรื่องก็จบ นี่คือโจทย์ที่ตั้งไว้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็ทำไปตามหลักฐาน แต่ผมมั่นใจว่าหลักฐานในที่เกิดเหตุไม่ครบถ้วน เพราะผู้ที่เข้ามอบตัวคนนี้ได้ไปยืนดูตรงจุดเกิดเหตุด้วย มีชาวคลองเดื่อเห็นแล้วโทรมาบอกว่าเขายังส่งบุหรี่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปเฝ้า ทำตัวเป็นปกติ เรื่องนี้เท็จจริงอย่างไรปิดกันไม่ลับ แม้แต่ที่ทำงานของเขาก็ปิดว่าไม่ได้ไปรับเหมา มีการระบุว่าทำงานที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ชาวบ้านโทรมาบอกลักษณะนิสัยว่าปกติเป็นคนขับรถเปิดเพลงเสียงดัง เขาก็คงมีทั้งคนรักและไม่รัก”นายชาดา กล่าว
เมื่อถามว่าบอกว่าจำคนร้ายได้แม่น ได้ยืนยันข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า
แจ้งไปแล้ว ทางตำรวจจะให้ตนสะเก็ดภาพ ก็บอกว่าคงทำไม่ได้ ไม่ได้จำว่าปากหนาอย่างไร แต่จำแม่นแม้แต่เสื้อที่ใส่ บอกไปเดี๋ยวจะกลายเป็นจินตนาการมากกว่า เมื่อถามว่ามีการพูดคุยส่วนตัวกับทางเจ้าหน้าที่ ขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายอีกคนให้ได้ภายในกี่วันหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ไม่ เขาเป็นแค่ผู้ร่วมกระทำผิด ตัวจริงมาแล้ว แต่เรื่องจับตัวได้ไม่ได้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ในเมื่อเขายืนยันว่ามาคนเดียว แต่ที่สำคัญคือรถที่อ้างว่าถูกยิงในวันแรกที่เรียกมาสอบ แล้วปล่อยกลับไป อยากถามว่าในทางความรับผิดชอบของผู้ที่เรียกรถมา เมื่อเห็นมีรอยกระสุน น่าจะสอบถามว่ารถถูกยิงทั้งที่มีคดีอยู่ ไม่ใช่รถอยู่ดีๆถูกยิงแล้วปล่อยไป ถึงบอกว่าคนร้ายมีที่ปรึกษา แต่เสียใจอยู่นิดเดียวว่าจับรถมาแล้วมีรอยกระสุนปืนแล้วปล่อยกลับไปอ้างรถคนละยี่ห้อ ถึงแม้จะคนละยี่ห้อแต่รถถูกยิงไม่ว่าจะคดีไหนก็ต้องสอบสวน หลังจากนั้นก็เอารถไปทำ ถือว่าเป็นเรื่องทะแม่ง ๆ แม้จะอ้างว่าเป็นคนละยี่ห้อก็ตาม จึงต้องสอบถามในความรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าแสดงว่าไม่มั่นใจการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายชาดากล่าวว่า ตนมั่นใจ ตำรวจเขาทำไปตามหลักฐาน
แต่จะถูกบิดเบือนไปอย่างไรนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะว่าผู้ที่เข้ามอบตัวบ้านก็อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ เมื่อถามว่าคนที่มามอบตัวเป็นมือยิงหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้ เขาไม่ได้พูดความจริง เมื่อถามว่าสันนิษฐานหรือไม่ว่าเป็นที่ปรึกษาของคนร้าย เกี่ยวโยงกับเรื่องธุรกิจ หรือการเมืองหรือประเด็นอะไร นายชาดา กล่าวว่า หากจะมีก็มีเรื่องการเมือง เป็นธรรมดาของคนที่มีเรื่องต้องปรึกษาทนาย เขามีเวลาตั้งตัวหลายวันกว่าจะเข้ามอบตัว เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะไปพิสูจน์ว่าใครผิดหรือถูก แม้แต่อาชีพเขาก็บอกผิดว่าเป็นวิศวกร ซึ่งไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้จบวิศวะ อาจเป็นเพราะอยากให้เกิดความน่าเชื่อถือมากกขึ้น แม้แต่ชื่อรีสอร์ทที่บอกตอนแรกว่าไปเฝ้าอยู่ ก็ไม่ใช่ ซึ่งชาวคลองเดื่อรู้ดีว่าเขาทำงานอยู่ที่ไหน
ต่อข้อถามว่าปักใจเชื่อว่าเป็นเรื่องการเมือง นายชาดากล่าวว่า ความเชื่อของตนคือความเชื่อส่วนตัว
แต่ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนพิจารณาดูว่ามันทะแม่งๆหรือไม่ ตนเป็นผู้สูญเสียแต่กำลังจะกลายเป็นจำเลยไปแล้ว เมื่อถามว่าคนร้ายอีกคนคุ้นหน้ามาก่อนหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า รูปร่างอาจจะมีซ้ำกับคนอื่น แต่ไม่เคยคุ้นตามาก่อน แต่เห็นชัดเจนมาก จำแม่น ยืนยันว่าจำบุคคลคนนั้นแม่นมาก เมื่อถามว่าจะมีการสืบคู่ขนานกับทางตำรวจหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ไม่ใช่สาระสำคัญ คงไม่ขอให้สืบสวนอะไรเพิ่มเติม แล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ความเป็นผู้ต้องหาเป็นผู้ต้องสงสัย เขามีสิทธิจะอ้างกฎหมาย ตนก็เคยตกเป็นจำเลยในสภาพนี้ รู้ว่าการกระทำนี้เป็นอย่างไร เขาต้องให้การในทางที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง ตนไม่ก้าวล่วง จะผิดหรือไม่ผิดลูกตนก็คงไม่ฟื้นขึ้นมา บอกแล้วว่าให้อภัยหมดแล้ว แต่อย่ามีบางคนพยายามสร้างเรื่องราวให้ยาว แล้วกลายเป็นว่าตนกับผู้ที่เข้ามอบตัวบาดหมางกัน
“ผมบอกลูกหลานตระกูลไทยเศรษฐ์ไม่ให้ติดใจอะไรทั้งนั้น ได้คุยกันหมดทุกคนแล้ว อยากให้เรื่องมันจบ เพราะได้ให้อภัยเขาหมดแล้ว ที่เหลือเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราพร้อมจะรับทุกสภาพ เขาจะติดคุกหรือไม่ ไม่ได้ติดใจ ส่วนทางเราจะโดนอะไรก็พร้อมรับสภาพหมด ผมไม่รู้แนวทางการสอบสวนจะต้องเพิ่มเติมอะไร หัวกระสุนก็มีอยู่แล้ว 1 หัว ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอก แต่ไม่ทราบว่าเป็นการโยนข่าวมาจากทางไหนว่าจะขอผ่าศพ ข่าวที่ออกมาเป็นข่าวลวงมากกว่า เรารู้สเต็ปนะครับว่าจะออกมาแบบนี้ เราก็ทราบอยู่แล้วและคาดคะเนอยู่แล้ว”นายชาดากล่าว
เมื่อถามว่าหากวันนั้นเป็นตัวเองที่โดน ในทางการเมืองจะเป็นอย่างไร
นายชาดากล่าวว่า ถ้าเกิดมีส.ส.ตาย 1 คน สื่อมวลชนต้องประโคมข่าว ผู้ที่กระทำก็อยากให้จบว่าเป็นจิ๊กโก๋ข้างถนน คดีก็จบและปิดฉากได้ง่าย ไม่เช่นนั้นจะถูกกดดัน ถ้าไม่มีตนการเมืองจะเปลี่ยนแปลงถึง 2 จังหวัด คือ จ.อุทัยธานี และจังหวัดข้างเคียง สิ่งที่กล่าวเช่นนี้เพราะก่อนหน้าเกิดเหตุมีการเตือนมาก่อนแล้ว ก็เป็นสิ่งที่ตนย่อมคิดไปได้ และเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่คาดไว้ คือเป็นเรื่องเหตุซึ่งหน้า เมื่อถามต่อว่าสิ่งที่เชื่อกับผลตรวจสอบทางคดีมันยังขัดแย้งกันอยู่ นายชาดากล่าวว่า ไม่ใช่ขัดแย้ง ความเชื่อของตนคือความเชื่อส่วนตัว ไม่ก้าวล่วงการทำงานของตำรวจ เมื่อถามว่าหลังเกิดเหตุมีคนออกมาเตือนอะไรอีกหรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ขออนุญาตไม่พูด อยากให้จบตรงนี้ จบแบบนี้ก็ดีแล้ว จบกันไป แต่ดูไปเรื่อยๆ ก็น่าจะรู้ เมื่อถามว่าตอนนี้ยังระแวงอยู่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า ใครที่โดนอย่างตนก็ต้องระวังทั้งนั้น การระวังตัวเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน ต้องขอบคุณผบก.ภ.อุทัยธานี ที่ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแล.
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday