แก๊งกระตุกทองเหิมขี่รถจักยานยนต์ตามประกบเหยื่อสาวขณะกำลังขี่รถจักยานยนต์ส่งลูกที่โรงเรียนในช่วงเช้า สบโอกาสขับรถประกบก่อนกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท ซิ่งรถหนีลอยนวล
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 29 ส.ค.พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ปันกาวี สารวัตรเวร สภ.เมือง พิษณุโลก รับแจ้งมีเหตุคนร้ายก่อเหตุ
กระชากทองจากหญิงสาวบริเวณหน้าวัดจันทร์ตะวันออก ถ.บรมไตรโลกนารถ ต.ในเมือง อ.เมือง และคนร้ายได้ หลบหนีไปทางห้างสรรพสินค้าแม็คโคร จึงได้วิทยุแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจช่วยกันสกัดจับคนร้าย พร้อมทั้งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ น.ส.ดวงรัตน์ บรรนา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140/9 ม.2 ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กำลังยืนรอให้การกับเจ้าหน้าตำรวจด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ดวงรัตน์ ได้ขี่รถจักยานยนต์มาตามถนนสายบรมไตร
เพื่อจะไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนวัดจันทร์ตะวันออก เมื่อขี่รถมาถึงบริเวณหน้าวัดจันทร์ตะวันออก มีคนร้ายเป็นชาย 1 ลักษณะผอมสูง สวมหมวกกันน็อคสีดำ สวมเสื้อเชิ๊ตลายสก็อต ขี่รถจักยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้ารุ่นเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขึ้นมาตีคู่ ก่อนที่จะใช้มือกระชากสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท จากคอของ น.ส.ดวงรัตน์ และขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งน.ส.ดวงรัตน์ หลังถูกคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำไป จึงได้ขี่รถไล่ตามคนร้ายไปได้ ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก็ไม่สามารถตามทัน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังรับแจ้งจึงได้ วิทยุศูนย์ 191 กระจายข่าวสกัดจับคนร้าย แต่ไม่พบตัว
จากเหตุการณ์ดังกล่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เพิ่มมาตรการเข้มในการรักษาความปลอดภัย
เนื่องจาก ขณะนี้ในเขต จ.พิษณุโลก ได้มีเหตุการณ์ จี้ชิงทรัพย์เกิดขึ้นติดต่อกันหลายคดี โดยล่าสุดก็มีการปล้นธนาคารกสิกรไทย สาขาภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยคนร้ายสามารถกวาดทรัพย์ไปได้เกือบ 2 แสนบาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได และล่าสุดก็มากระชากสร้อยคอทองคำรายนี้ จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางมาตรการเข้มในการรักษาความปลอดภัยให้กับ หน่วยงานธนาคาร ร้านทอง อย่างเข้มงวดในช่วงนี้.