ชาวบางไทรยืนยันไม่เผาศพแกนนำเรียกร้องเงินชดเชยน้ำท่วมหลังถูกคนร้ายยิงดับจนกว่าเจ้าหน้าที่จะจับผู้บงการฆ่าได้
แกนนำชาวบ้านอ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 11 คน ประชุมรวมกลุ่มกันที่วัดบางคล้า อ.บางไทร ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดอภิธรรมศพนายนริศ พรหมพงษ์ อายุ 49 เป็นแกนนำเรียกร้องเงินชดเชยน้ำท่วม ด้วยการขับไล่ผู้บริหารเทศบาลตำบลบางไทร ซึ่งถูกคนร้าย 2 คนก่อเหตุยิงจำนวน 5 นัดจนเสียชีวิต ที่หน้าร้านรับจ้างถ่ายภาพนริศโฟโต้ กลางตลาดอำเภอบางไทร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้จับกุมคนก่อเหตุได้ 2 ราย คือ นายขันทอง โกสะ อายุ 46 ปี อดีตลูกจ้างเทศบาลต.บางไทร เป็นคนยิง และนายเอกชัย ดารา อายุ 29 ปี เป็นคนขับรถใช้ก่อเหตุ ล่าสุดได้นำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพยอมรับว่าก่อเหตุเพราะขัดแย้งส่วนตัว การสังหารไม่มีการบงการแต่อย่างใด
น.ส.ชนิตา พรหมพงษ์ อายุ 37 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า
วันนี้ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้นำวางพวงหรีดและให้กำลังใจแกนนำที่เหลือว่า ถึงแม้จะมีการข่มขู่ฆ่าต่อและจะมีการเสียชีวิตเพราะลุกขึ้นมาเรียกร้อง ทางสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีขอแสดงความเสียใจ และยืนยันจะเร่งรัดให้มีการดำเนินตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ผู้เสียชีวิตจะต้องไม่ตายฟรี อย่างไรก็ตาจะไม่มีการเผาศพแกนนำที่ถูกฆ่าตายจนกว่าจะมีการจับกุมผู้บงการฆ่าได้
ทั้งนี้ชาวบ้านเชื่อว่าการฆ่าครั้งนี้มีการวางแผนและมีการบงการฆ่ามาก่อนจากผู้มีอิทธิพล
ซึ่งข้อเท็จจริงคนก่อเหตุและผู้เสียชีวิตไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน หากเรื่องทะเลาะวิวาทหรือแค้นส่วนตัวก็ไม่มีมูลเหตุใดที่จะต้องขัดแย้งกันถึงขนาดต้องยิง 5 นัดให้เสียชีวิต ดังนั้นชาวบ้านจึงเชื่อว่ามีการสั่งอย่างแน่นอน นอกจากนี้วิงวอนอย่าให้ตำรวจหยุดขยายผลคดีเพียงแค่จับกุมคนยิงได้เท่านั้น เพราะทุกวันนี้ยังมีการข่มขู่แกนนำอีก 11 คนที่เหลือ จนต้องไปแจ้งความต่อตำรวจไว้แล้ว ซึ่งหากไม่มีคนสั่งการแล้วจะมีการข่มขู่ได้อย่างไร ในเมื่อมือปืนที่ก่อเหตุก็ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ