สอบพยานยิงลูกชาดา วอนมอบตัวพร้อมให้อภัย

“ชาดา ไทยเศรษฐ์”พาพยาน 5 ปากที่นั่งในรถลูกชายถูกยิงเสียชีวิตเข้าให้ปากคำ วอนมือปืนเข้ามอบตัว พร้อมให้อภัย หากเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า


ที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา  วันนี้( 27 ส.ค.)  พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษญ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนติดตามคนคนร้ายมือปืนยิงรถนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชายนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชายไทยพัฒนา จนเสียชีวิต ได้ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าการสอบสวนคลี่คลายคดี โดยเน้นไปที่เรื่องรถกระบะลักษณะโหลดเตี้ย ท่อไอเสียส่งเสียงดังเสียคล้ายนกหวีดและติดสปอร์ตไลท์ส่องสว่างด้านหลัง โดยไม่จำกัดยี่ห้อ อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. และตรวจสอบเส้นทางจากจุดเกิดเหตุที่วิ่งไป อ.วังน้ำเขียวเชื่อมต่อถนน ใน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา รวมทั้งตรวจสอบว่าหลังก่อเหตุคนร้ายอาจขับรถวกกลับหลบหนี ไปตามถนนธนะรัชต์ บ้านกุดคล้า กม.20 แล้วผ่านแยกเข้าถนนผ่านศึกมุ่งหน้าออกมิตรภาพ ในเขตกลางดง โดยกำชับให้ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าจุดใดมีกล้องวงจรปิด เพื่อใช้เป็นทางติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี


พ.ต.อ.ธนาวุฒิ เคหะเจริญ ผกก.สภ.หมูสี เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องถึงนายทะเบียนที่ออกใบอนุญาตปืนขนาด .9 ม.ม.

เพื่อตรวจสอบผู้ครอบครองอาวุธปืนในพื้นที่ และเบื้องต้นนายทะเบียนแจ้งให้ทราบแล้วว่ามีทั้งหมดประมาณ 100 ราย จึงทำหนังสือแจ้งไปยังผู้คอบครองอาวุธปืนหรือผู้ได้รับอนุญาตมีอาวุธปืนขนาดดังกล่าวให้เดินทางนำผืนไปตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานภูธรภาค 3 (นครราชสีมา) เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำมาสอบสวนต่อไป


สอบพยานยิงลูกชาดา วอนมอบตัวพร้อมให้อภัย

ขณะที่ นายชูชัย ภัควันต์ ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ปากช่อง ได้มีหนังสือถึงนายสมบัติ อารีรัมย์ ผจก.การไฟฟ้า สาขาย่อยหมูสี

เพื่อให้เข้าแจ้งความกับพ.ต.ต.นพพร ปราชญ์กระโทก  พนักงานสอบสวน สภ.หมูสี  เจ้าของคดี เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียกร้องค่าเสียหายจากเสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น เป็นเงิน 34,325 บาทจากกรณีรถโตโยต้า  แลนด์ครุยเซอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายแดง อ 5726 กรุงเทพมหานคร เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าหักไป 1 ต้น


วันเดียวกันที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี  นายชาดา ไทยเศรษฐ์

พร้อมด้วย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ น้องสาวและเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองอุทัยธานี นายประภาวิชย์ บุษะวดี สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เมืองอุทัยธานี นายชูชีพ สารีนนท์ ส.อบจ.สว่างอารมณ์ และนายศุภฤกษ์ เอี่ยมลออ ทนายความ ได้พาพยานในรถวันเกิดเหตุทั้ง 5 ปากเข้าพบพนักงานสอบสวนนำโดยพ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ประกอบด้วย  นายปริวัฒน์เศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ อายุ 33 ปี สภาพได้รับบาดเจ็บสวมเฝือกคออ่อน  นายชาคริต ไทยเศรษฐ์ อายุ 22 ปี  นายกฤษฏา ซัคเซท อายุ 20 ปี  นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ อายุ 44 ปี ทั้ง 4 คนเป็นหลานชายนายชาดา  และ  นายธวัชชัย ม้าแก้ว อายุ 27 ปี ช่างภาพส่วนตัวนายชาดา


ขณะที่พนักงานสอบสวนได้เรียกพยาน 3 ปาก ประกอบด้วย นายสุริยา นายกฤษฏา และนายปริวัฒน์เศรษฐ์

เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดี ขณะที่นายชาดา เข้าให้ปากคำกับตำรวจบก.สส.ภ.3 โดยเบื้องต้นนายชาดา ได้ลำดับรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุจนลูกชายถูกยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.นครราชสีมา ได้นำเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์มาตรวจสอบดีเอ็นเอของพยาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีด้วย


ทั้งนี้ สำหรับแนวทางการให้การของพยานที่เข้าให้ปากคำในวันนี้ เบื้องต้นพยานได้ให้การถึงตำแหน่งที่นั่งภายในรถในวันเกิดเหตุ

โดยระบุว่านายฟารุต นั่งบริเวณที่คนขับ ส่วนด้านซ้ายข้าง ๆ มีนายปริวัฒน์เศรษฐ์ นั่งมาคู่กัน ส่วนเบาะกลางทางด้านซ้ายมือมีนายกฤษฏา นั่งคู่กับนายปริวัฒน์เศรษฐ์ ขณะที่เบาะหลังด้านซ้ายมีนายชาคริต นั่งคู่กับนายธวัชชัย โดยไม่มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งมารถตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 18.00 น. การสอบสวนจึงเสร็จสิ้น


ต่อมา นายชาดา เปิดแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน โดยตัดพ้อและวอนสังคมให้เห็นใจ เนื่องจากที่ผ่านมาถูกสังคมมองในทางไม่ดี

ทั้งที่ฝ่ายตนเป็นผู้ถูกกระทำและเป็นผู้สูญเสียลูกชาย ในส่วนของพยานที่นำมาให้ปากคำในวันนี้ ขอยืนยันว่า เป็นพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งสิ้น ส่วนกรณีที่มีข่าวอดีตทหารพรานเป็นผู้รับงานจ้างยิงตนนั้น นายชาดา  กล่าวว่า ไม่ขอออกความเห็น และขอให้เป็นแนวทางของตำรวจในการสืบหาคนร้ายก่อน อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องของภาพกล้องวงจรปิด เป็นคนบอกให้ตำรวจไปขอดูที่ร้านสะดวกซื้อและร้านแม็คโดนัลอีกด้วย อีกทั้งในวันนี้ตำรวจยังได้นำภาพผู้ต้องสงสัยมาให้ดูอีกด้วย แต่ในเรื่องของรายละเอียดของการให้ปากคำทั้งหมดไม่ขอเปิดเผยและขอให้หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี


“อยากจะวอนให้คู่กรณี ถ้าเป็นเหตุซึ่งหน้าก็อยากจะให้เข้ามามอบตัว เพื่อคลี่คลายคดีว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องอะไรกันแน่ สังคมจะได้รับรู้ ถ้าหากเป็นเหตุเฉพาะหน้าตนและครอบครัวก็พร้อมที่จะให้อภัย ไม่อาฆาต ไม่ล้างแค้น ไม่ติดใจ สำหรับเรื่องผลของคดีก็ขอให้เป็นเป็นหน้าที่ของตำรวจ” นายชาดา กล่าว.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์