รวบหนุ่มสิ้นคิด !!! ตัด-ต่อธนบัตร หวังเงินงอก

การศึกษาไม่ได้ทำให้คนคิดดี เมื่อพ่อค้าหนุ่ม พบคำเตือนบนเครื่องฝากเงิน กลับไม่เชื่อคิดลองของ ว่าคนต้องฉลาดกว่าเครื่องจักร จึงนำเงินมาตัดต่อ เพื่อหลอกเครื่อง หวังเงินงอกเงย พบวันเดียวทำถึง 31 ครั้ง ธนาคารเสียหายกว่า 2 แสน สุดท้ายไม่รอดถูกรวบคาหนังคาเขา

เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ท.มงคล นันทจิตร พงส. (สบ.2) สน.ทุ่งมหาเมฆ กล่าวถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนติดตามจับกุม นายนครินทร์ ศิริอุปถัมภ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127/49 ตรอกวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม. พร้อมของกลาง กรรไกร ไม้บรรทัด มีดคัตเตอร์ ปืนยิงกาวร้อน สก๊อตเทปใส ธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่มีการตัดต่อจำนวน 6 ใบ ภายหลังใช้ธนบัตรที่มีการตัดต่อและเอาไปฝากยังเครื่องฝากอัตโนมัติ ของธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่

พ.ต.ท.มงคล กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา ตัวแทนจากธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ได้เดินทางมาแจ้งความ ว่ามีบุคคลนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท ที่มีการตัดต่อมาฝากยังเครื่องฝากอัตโนมัติ ของธนาคาร ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 202,000 บาทโดยการฝากแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินที่ไม่เท่ากัน เช่นบางครั้งฝาก 1,000 บาท บางครั้ง ฝาก 7,000 บาท ก่อนที่จะใช้บัตรเอทีเอ็ม ถอนเงินสดออกไปตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. เป็นต้นมา จึงได้ตรวจสอบจากโทรทัศน์วงจรปิดพบว่า นายนครินทร์ มีการฝากและถอนเงิน จนเป็นที่ผิดสังเกต จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเฝ้าสังเกตกระทั่ง พบว่านายนครินทร์ มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง จึงได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.220/2550 ลงวันที่ 31 ม.ค. 2550 กระทั่งเวลา 24.00 น. วันที่ 31 ธ.ค. นายนครินทร์ ได้นำเงินที่มีการตัดต่อแล้วมาฝาก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมหมายจับเข้าจับกุมได้ในที่สุด

จากการสอบสวน นายนครินทร์ ให้การว่า ตนเพิ่งจบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านดินแดง เมื่อปี 2549 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาทำอาชีพค้าขาย โดยเมื่อต้นเดือนมกราคมได้ไปฝากเงินที่ตู้ฝากอัตโนมัติ สาขาหนึ่งของธนาคารกรุงเทพ ย่านฝั่งธนฯ โดยที่ตู้รับฝากมีข้อความว่า ไม่รับธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท แบบใหม่ ซึ่งเป็นแบบที่มีแถบสีเงินบนธนบัตร ตนจึงได้ลองนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท แบบใหม่ที่มีแถบสีเงิน ฝากเข้าไปในเครื่องปรากฏว่าสามารถฝากได้ ทำให้ตนคิดว่า อย่างไรเครื่องก็ไม่ได้ฉลาดกว่าคน

เมื่อคิดแบบนั้น ผมจึงลองนำธนบัตรใบละ 1,000 บาท มาตัดออกใบละประมาณ 3 มิลลิเมตร ก่อนที่จะลองต่อและนำไปฝากปรากฏว่าฝากได้ จึงกลับมาตัดธนบัตรเป็นส่วน ๆ ให้สามารถมาต่อเป็นใบใหม่ได้ ก่อนที่จะนำส่วนที่ตัดมาต่อเป็นอีก 1 ใบ โดยจะใช้ธนบัตร ประมาณ 25 ใบ มาตัดและต่อ จะได้ธนบัตรเพิ่มมาอีก 1 ใบ จากนั้นจึงนำไปฝาก เมื่อฝากแล้วก็จะใช้บัตรเอทีเอ็ม กดเงินสดออกมา แต่หากได้ธนบัตรเป็นชนิดเก่าที่ไม่มีแถบสีเงิน จะฝากเข้าไปใหม่ และกดให้ได้ธนบัตรใบละ 1,000 บาทชนิดใหม่เท่านั้น นายนครินทร์ รับสารภาพ

พ.ต.ท.มงคล กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่าวันที่ 3 ม.ค. วันเดียวนายนครินทร์ ทำถง 31 ครั้ง ซึ่งการกระทำของนายนครินทร์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ธนาคารกล่าวทำให้ธนาคารเกิดความเสียหายเป็นเงิน 202,000 บาท เนื่องจากธนบัตรที่นายนครินทร์ ทำการตัดต่อนั้น ธนาคารไม่สามารถไปแลกคืนจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้เนื่องจากเป็นการจงใจให้เกิดความเสียหาย โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ฉ้อโกง และปลอมหรือใช้ธนบัตรปลอม แก่นายนครินทร์ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิต