สืบหาศพ หลังรถชนลากศพหายไปกับความมืด

วันนี้ (22 ส.ค.) ร.ต.ท.ศิริศักดิ์  พรมศรี  รอง สว.สส.สภ.เมืองสุรินทร์
 
นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภ.เมืองสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าของพื้นที่ พร้อมด้วยนายจำนง  โภคทรัพย์ อายุ 59 ปี พี่ชายนายวิโรจน์  โภคทรัพย์  อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 บ้านปวงตึก หมู่11 ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่ทุ่งนาและป่าละเมาะ  บ.โคกสมบัติ ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจสอบจุดที่พลเมืองดีระบุว่าพบกลุ่มชายพร้อมรถยนต์กระบะมาเผาวัตถุต้องสงสัย และคาดว่าน่าจะเป็นคน เนื่องจากเป็นเวลาไล่เลี่ยกันกับที่นายวิโรจน์  โภคทรัพย์  เกิดอุบัติเหตุถูกรถเชี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้มก่อนที่จะมีรถยนต์อีกคันวิ่งสวนมาด้วยความเร็วพุ่งชนนายวิโรจน์อย่างจัง ก่อนลากศพหายไปกับความมืด ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.55 ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้วที่ยังไม่พบศพ ขณะที่ตำรวจเจ้าของคดียังมืดแปดด้าน 

ส่วนครอบครัวผู้สูญหายยังคงเฝ้ารอและคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถติดตามสืบสวนสอบสวนนำศพหรือกระดูกนายวิโรจน์ฯกลับมาทำบุญตามประเพณีที่บ้านต่อไปได้

ทั้งนี้การลงพื้นที่ป่าละเมาะ  บ.โคกสมบัติ ต.สังขะ จ.สุรินทร์เพื่อเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่พลเมืองดีที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่ป่าละเมาะดังกล่าว ระบุว่า เมื่อประมาณเกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ในช่วงเช้าพบเห็นกลุ่มชายประมาณ 5-6 คน พร้อมรถกระบะสีแดง มีคอกเหล็กที่กระบะหลัง ทะเบียนนครราชสีมา ทำการจุดไฟเผาวัสดุต้องสงสัย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอะไร ภายในป่าละเมาะห่างจากถนนเข้าไร่นาและป่าละเมาะประมาณ 10 เมตร  หลังมีควันเหม็นคล้ายๆเผายางและพลาสติกอย่างใดอย่างหนึ่ง พลเมืองดีจึงสงสัยและได้เดินตามกลิ่นควันไป จึงพบกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมกับถามว่า เผาอะไรกัน แต่กลุ่มคนดังกล่าวกลับตอบมาว่าเผาคน ซึ่งไม่ทราบว่าพูดเล่นหรือพูดจริง หลังจากนั้นพลเมืองดีจึงเดินหนีออกไปจากป่าละเมาะ  และไม่กล้าเข้าไปดูบริเวณที่จุดไฟดังกล่าวแต่อย่างใด

ทั้งนี้การลงพื้นที่ตรวจสอบดังกล่าวเป็นจุดใกล้เคียงกับจุดสุดท้ายที่มีวัยรุ่นนั่งเล่นอยู่หน้าร้านเซ่เว่นอีเลฟเว่นบริเวณทางโค้งเขตเทศบาล อ.สังขะฯ

ที่พบเห็นรถกระบะสีแดงมีคอกเหล็กและหลังคาด้านหลัง ลากศพห้อยโตงเตงอยู่ด้านหลังรถไป  โดยมุ่งหน้าไปทาง 4 แยกไฟแดงทางหลวง อ.สังขะฯ  ซึ่งก็เป็นจุดสุดท้ายที่มีคนพบเห็นและอยู่ใกล้กับป่าละเมาะบ้านโคกสมบัติที่พลเมืองดีพบมีกลุ่มชายเผาวัตถุลึกลับเพียง 2 กิโลเมตรเท่านั้น และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบหลักฐานใด พบเพียงเศษยางหรือพลาสติกสีน้ำตาลที่ถูกไฟเผาจนแยกแยะไม่ออก นำกลับใส่ถุงไปตรวจสอบต่อไป

ด้าน ร.ต.ท.ชัญรัตน์  บัวทองจันทร์ ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้นำผ้าขาวม้าของผู้ตายที่เปื้อนเลือดซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
 
ส่งไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 3  จ.นครราชสีมา พร้อมเศษยางที่เจอที่กองไฟในป่าละเมาะ  ขณะที่เศษชิ้นส่วนสีขาวคล้ายกระดูกคนที่ญาติผู้เสียชีวิตเก็บรวบรวมจากกองขี้เถ้าในป่าละเมาะก่อนหน้านี้นั้น ได้ส่งไปตรวจสอบที่ สนง.นิติเวทวิทยาศาสตร์ สนง.ตำรวจแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอว่าตรงกับผ้าขาวม้าของผู้สูญหายที่เปื้อนเลือดว่าตรงกันและเป็นกระดูกคนหรือไม่ ซึ่งต้องรอผลพิสูจน์อีกครั้ง.