รถบัส นำนักเรียนมาทัศนศึกษา ที่ไบเทค บางนา เกิดคันชักคันส่งหลุด บังคับรถไม่ได้เสียหลักลงข้างทาง ชนที่กั้นเลน คนขับ และครูผู้ควบคุม 2 คน บาดเจ็บถูกนำส่งรพ. ส่วนเด็กนร. 49 คน เจ็บเล็กน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 19 ส.ค. 55 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธัญุบรี จ.ปทุมธานี
ได้รับแจ้งเหตุมีรถบัสนักเรียนเสียหลัก ตกเกาะกลางชนที่กั้นเลนริมทาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าบางนา หลัก กม.ที่ 23 ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ห่างจากสะพานทางตัดขึ้นมอเตอร์เวย์ย่านธัญบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ในที่เกิดการจราจรในเส้นทางช่องทางคู่ขนานรถไม่สามารถใช้การได้ ที่เกาะกลางถนนกั้นระหว่างช่องทางด่วนและช่องทางคู่ขนาน
มีร่องรอยล้อรถบัสไถลลง ส่วนรถบัสประจำทางสาย กรุงเทพ-สิงห์บุรี หมายเลขทะเบียน 10-0620 สิงห์บุรี คันชักคันส่งหลุด เสียหลักตกเกาะกลางไถลเข้าชนที่กั้นเลนริมทาง รถขวางช่องทางถนนคู่ขนาน บริเวณช่องทางคู่ขนานดังกล่าว สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถบัส พบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ม.1-6 โรงเรียนเทพศิรินท์พุแค จ.สระบุรี จำนวน 49 คน โชคดีนักเรียนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทราบชื่อคนขับ คือ นายไชยา เสงี่ยมงาม อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลธัญบุรี พร้อมด้วยอาจารย์ผู้ควบคุม 2 ราย ไม่ทราบชื่อ นอกจากนี้ยังมีรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน ชจ 1341 กทม. ถูกเชี่ยวที่ด้านหน้ารถได้รับความเสียหายเล็กน้อย
ด้านนายมุ่ย นุแปง อายุ 40 ปี เด็กรถ ให้การว่า รถบัสคันดังกล่าวได้ถูกว่าจ้างจากทางโรงเรียน ให้ไปรับนักเรียนที่ จ.สระบุรี
โดยมีรถบัสคันอื่นๆ รวม 10 คัน เข้าขบวนนำนักเรียนทั้งหมด เพื่อเดินทางไปทัศนศึกษาที่ไบเทค บางนา ก่อนถึงที่เกิดเหตุคันชักคันส่งของรถหลุด ทำให้รถไม่สามารถบังคับทิศทางได้ แต่คนขับพยายามเบรคเพื่อประคองรถ รถจึงไถลลงเกาะกลางกั้นทางด่วนกับคู่ขนาน จากนั้นเสียหลักไปชนกับที่กั้นริมทาง ช่วงนั้นได้ตะโกนร้องบอกให้นักเรียนพยายามหาที่ยึดไว้ ก่อนที่รถจะชนเข้าอย่างจัง ส่งผลทำให้ครู 2 คน และคนขับได้รับบาดเจ็บ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนทราบว่า สาเหตุเกิดจากสภาพคันชักคันส่งรถที่เก่า จึงหลุดจนทำให้รถเสียหลักและเกิดเหตุดังกล่าว โชคดีที่คนขับประคองรถได้ เบื้องต้นจะได้สอบสวนคนขับและพยานอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป