หม้อแปลงขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าฯ อ่างทอง ใช้จ่ายไฟ 4 จังหวัดหลัก ได้แก่ อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และสุพรรณบุรี เกิดระเบิด เบื้องต้นควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 ส.ค. 55 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
รับแจ้งมีเหตุหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด เหตุเกิดภายในสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สาขาอ่างทอง 2 หมู่ที่ 12 ต.ศาลเจ้าโรงทอง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลวิเศษไชยชาญ
ในที่เกิดเหตุพบหม้อแปลงขนาด 300 เมกะโวลท์แอมป์
ได้เกิดไฟลุกไหม้เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถใช้น้ำฉีดสกัดได้ เนื่องจากภายในหม้อแปลงดังกล่าว บรรจุน้ำมันที่ใช้ในการหล่อเย็นหลายหมื่นลิตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลวิเศษไชยชาญจึงประสานไปยังเทศบาลเมืองอ่างทอง เพื่อขอรถโฟมมาใช้ในการฉีด
นายชาติชาย แสงน้อย หัวหน้าสถานี กล่าวว่า หม้อแปลงดังกล่าวเป็นหม้อแปลงขนาดใหญ่
ซึ่งใช้แปลงแรงดันจาก 230 กิโลโวลท์ เป็น 115 กิโลโวลท์ เพื่อจ่ายไปยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งภายในสถานีนี้ มีหม้อแปลงแบบเดียวกัน จำนวน 3 ลูก ใช้จ่ายไฟฟ้าภายในภูมิภาคให้กับจังหวัดหลักๆ 4 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี และสุพรรณบุรี ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้ากำลังปฏิบัติงานตามปกติอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ออกไปดูก็พบว่า เกิดเพลิงไหม้ที่หม้อแปลงดังกล่าว โดยมีไฟลุกและมีควันพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก จึงได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง
นายชาติชาย กล่าวต่อว่า สำหรับหม้อแปลงที่ระเบิดนี้ไม่สามารถใช้น้ำฉีดสกัดได้
เนื่องจากภายในหม้อแปลงมีน้ำมันหล่อเพื่อใช้ในการหล่อเย็น ระบายความร้อนของหม้อแปลง สำหรับตอนนี้ยังสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติ เพราะยังเหลือหม้อแปลงอีก 2 ลูก แต่ตอนนี้หม้อแปลงทั้ง 2 ลูก ก็ทำงานหนักมากขึ้น ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีกตอนไหนหรือไม่อย่างไร ขณะนี้ได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่ของการไฟฟ้าให้ทราบเรื่อง เพื่อเร่งหาทางแก้ไขเป็นการด่วน ในเบื้องต้นคาดความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เกิดเพลิงไหม้นี้ได้มีรถดับเพลิงของ อบต.ศาลเจ้าโรงทองและเทศบาลตำบลไผ่จำศีล
ได้เข้ามาเพื่อเตรียมคุมสถานการณ์ เนื่องจากไม่สามารถใช้น้ำฉีดสกัดได้ รถโฟมจากเทศบาลเมืองอ่างทองมาฉีดโฟม แต่ก็ยังไม่สามารถฉีดสกัดได้ ต้องประสานไปยังไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อขอรถโฟมมาเพิ่มอีก 1 คัน ซึ่งขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว