ประยุทธ์ ซัดผู้ก่อการร้ายใต้ สุนัขลอบกัด เชื่อเคอร์ฟิวโดนต้าน

ประยุทธ์ ซัดผู้ก่อการร้ายใต้ สุนัขลอบกัด เชื่อเคอร์ฟิวโดนต้าน

เมื่อเวลา 15.30 น.  วันที่ 7 สิงหาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก(ผบ.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก  (ผบ.ทบ.)

  แถลงถึงปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า  สถานการณ์วันนี้ไม่ใช่สงครามภายนอกหรือสงครามขนาดใหญ่ แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากคนในประเทศเองที่มีความคิดเห็นแตกต่าง เกิดจากขบวนการเก่าๆ และจากการกระทำที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด สินค้าเถื่อน ที่รวมกลุ่มขึ้นมามุ่งหวังให้ดินแดนภาคใต้เป็นดินแดนความมืดมิด ไม่ให้ใครเข้าไปแตะต้องได้ และเกิดประโยชน์ต่อคนกลุ่มหนึ่ง โดยเราได้มีการจัดทำทำเนียบกำลังรบของข้าศึก  และมีการติดตามจับกุมโดยใช้กระบวนการทางกฎหมายปกติ  เพื่อทำลายโครงสร้างและแผนการดำเนินงาน แต่ไม่ใช่ขบวนการแยกดินแดนทั้งหมด รวมถึงไม่ได้มีการใช้กำลังจากนอกประเทศ จากการจับกุมและการสืบทราบเป็นคนไทย และความสูญเสียเกิดขึ้นจากคนทุกศาสนา

               
“การประกาศเคอร์ฟิวแค่เป็นเวลา หรือ แค่บางพื้นที่ ก็ยังได้รับการต่อต้าน  เพราะว่ามีคนส่วนหนึ่งเขาไม่ได้เดือดร้อน ก็เกรงว่าเขาจะได้รับผลกระทบจากกฎหมายเหล่านั้น  ซึ่งก็รู้ว่าเป็นไปได้ยากที่จะประกาศได้ และต้องใช้อย่างระมัดระวัง  ทั้งนี้ ผู้ที่ก่อเหตุฆ่าไม่เลือก ไม่ได้มาใช้กองกำลังเป็นหมวด หมู่  แต่เขาใช้วิธีสุนัขลอบกัด ใช้ยุทธวิธีการก่อการร้ายแบบกองโจร วันนี้ผู้ก่อเหตุมีใครมาแสดงตัวรับผิดชอบหรือเปล่า มีแต่อีแอบ อีหมาลอบกัดอย่างเดียว ดังนั้น การที่บอกว่าการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันล้มเหลว ก็ต้องชี้แจงว่าในสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้มันผสมผสานกัน  ไม่ว่าจะผิดกฎหมาย  ยาเสพติด แรงงาน อาชญากรรม คนสองสัญชาติ การเมือง ส่วนตัว ไล่ที่ ซื้อที่ดิน ซึ่งก็เหมือนกับจังหวัดอื่นๆ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  การแก้ไขปัญหาต้องมีความเข้าใจในปัญหา  ซึ่งการบาดเจ็บและการสูญเสียใครก็รับไม่ได้  ตนก็รับไม่ได้ 

และ ตนไม่เจ็บใจและไม่โกรธแค้นมากกว่าเหรอที่ลูกน้องไปถูกยิง ถูกฆ่า ทุกวัน แต่ตนจะไปแก้แค้นได้หรือไม่ ทำได้แค่บังคับใช้กฎหมาย ตั้งด่านตรวจให้มากขึ้น  แล้วประชาชนก็จะปฏิเสธในภาพรวมทั้งหมด เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน  นั่นคือสิ่งที่วนเป็นปัญหา เพราะฉะนั้นทุกคนต้องลดความกดดัน ไม่เช่นนั้นเจ้าหน้าที่จะไปในทางที่ผิด ทั้งนี้ ไม่ใช่ตนเป็นผบ.ทบ.แล้วจะสบาย อยากจะเสวยสุขอยู่ในตำแหน่ง  อยู่อีก 2 ปีก็จะเกษียณแล้ว

                    
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.) ต้องพูดคุยในภาพรวม 17 กระทรวง กับ 66 หน่วยงานได้เข้าใจ  ในรายละเอียดผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา

  โดยต้องขับเคลื่อนพร้อม ศอ.บต. กอ.รมน. โดยต้องทำงานร่วมกัน สอดคล้องกับความมั่นคง ความต้องการของคนในพื้นที่  ซึ่งไม่ได้มีอะไรใหม่เลย ไม่ได้หมายความว่าตั้งองค์กรมาแล้วภาคใต้จะจบ แต่เอามาขับเคลื่อนยุทธศาสตร์  โดย สมช.มี 9 ข้อ กอ.รมน. 7 ข้อ ศอ.บต.มี 9 ข้อ วันนี้มาเขียนใหม่โดย ทำเป็นแผนที่ตนตั้งเองเรียกว่า  9-5-29 เป็นเป้าประสงค์ขององค์กร ทั้งหมดไม่ได้ใช้กำลัง มี 5 กลุ่มงานหลัก ด้านความมั่นคง ด้านการพัฒนา ด้านยุติธรรม ด้านสิทธิมนุษยชน  ด้านการพูดคุยเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน  เป็นต้น 

               
เมื่อถามถึงการใช้เรือเหาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาก็ทำอยู่แล้ว

ทำไมต้องเหาะให้เห็นหรืออย่างไร ในสลายหรือเปื่อยไปหรืออย่างไร มันจอดอยู่ในโรงเมื่อใส่แก๊สไปก็ใช้ได้ ซึ่งเรือเหาะสามารถใช้ได้ทุกพื้นที่ แต่ตรงไหนที่อันตรายเราก็ไม่ใช้ อย่างน้อยต้องขึ้นบินอย่างต่ำ 3 พันเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกยิง คนที่คิดใช้เรือเหาะในพื้นที่ไม่ใช่ปัญญาอ่อน หรือจะเอาผลประโยชน์ แต่เขามองว่าทำอย่างไรเราจะเฝ้ามองตรวจสนามรบได้ตลอดเวลา ส่วนกรณีที่กองทัพอากาศจะใช้เครื่องบิน AU-23 มาช่วยลาดตระเวนคุ้มครองหน่วยภาคพื้นดินนั้น เป็นความหวังดีของรมว.กลาโหม และผบ.ทอ. อย่างน้อยก็เป็นตาข้างบน ห้ามปรามได้ เวลาฝ่ายนั้นคิดจะทำอะไรต้องระวัง เพราะจะมีเครื่องบินหรือเรือเหาะบินมาใช้กล้องส่อง 

               
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แนวคิดที่จะให้พลทหารที่ปลดประจำการบรรจุเข้าไปทำงานในพื้นที่นั้น เป็นแนวคิดที่มีมาตั้งนาน ตั้งแต่สมัยตนเป็นร้อยตรี

ตนได้คุยกับ ผบ.ตร.ว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ทหารเกณฑ์ที่ถูกปลดประจำการในพื้นที่เป็นหลัก หรือทหารเกณฑ์ที่เคยลงไปปฏิบัติในพื้นที่บรรจุคัดเลือกเข้าเป็นตำรวจดูแลพื้นที่ ซึ่งน่าจะบรรจุปีละ พันนาย โดยรมว.กลาโหมเป็นผู้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีในที่ประชุม ซึ่งนายกฯเห็นด้วย


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์