เมื่อ 7 ส.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ร.ต.ท.อนุพงศ์ ยะพิมสิน ร้อยเวร สภ.สีบัวทอง
รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดแสวงหา ว่ามีเหตุคนเสียชีวิตที่ภายในบ้านเลขที่ 14/1 ม. 6 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ชูเดช กองกันภัย รองผบก.ภ. จ.อ่างทอง พ.ต.ท.สุรพล ต้อยจัสตุรัส สวญ. สภ. สีบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ วิทยาการจังหวัดอ่างทอง แพทย์โรงพยาบาลแสวงหา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจุดแสวงหา
ภายในบ้านหน้าห้องนอนพบศพ น.ส.กัลยา พลอยแสง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 ม.6 ต.สีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง มีร่องรอยถูกทุบตีที่เบ้าตาทั้งสองข้างจนเขียวช้ำ ที่บริเวณปากถูกต่อยจนภายในปากด้านล่างฉีกขาดเป็นแผลยาว ที่ใบหน้าถูกมีดโกนปาด 2 แผล ที่คาง 1 แผล ที่ขาขวาถูกมีดโกนปาด 4 แผล ที่ขาด้านซ้าย 3 แผล และที่ลำคอลักษณะใช้มีดโกนปาดคอหลายครั้ง จนหลอดเลือดและหลอดลมขาด ทุกแผลเป็นแผลฉกรรจ์ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบมีดโกนแบบมีด้ามตกอยู่บริเวณข้างศพ 1 ด้าม เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ส่วนข้าวของไม่มีการรื้อค้นแต่อย่างไร แต่กระเป๋าสตางค์หายไปพร้อมโทรศัพท์
ส่วนผู้ตายได้ปลูกบ้านขายของชำอยู่ตามลำพังคนเดียว โดยช่วงเวลา 05.30 น. นางบุญธรรมได้มาที่ร้านของลูกสาวเพื่อเอาไข่ไก่ไปทอดให้หลานกินแต่พอมาถึงร้านค้าของลูกสาวก็ได้เห็นหินมาบังประตูไว้นางบุญธรรมจึงเปิดไปดูต้องตกใจเพราะลูกสาวถูกฆ่าปาดคอจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการพร้อมแพทย์โรงพยาบาลแสวงหาได้ชันสูตรศพพบว่าคนร้ายน่าจะใช้มีดโกนอย่างน้อย 2 ด้ามเพราะว่าได้ปาดผู้ตายทั้งตัวและที่บริเวณคอได้ปาดจนใบมีดหลุดตกอยู่กับพื้นน่าจะมีสำรองแล้วปาดต่อจนเสียชีวิต
จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ คนร้ายน่าจะเป็นคนที่ผู้ตายรู้จักและมาเคาะประตูเพื่อซื้อของพอผู้ตายเปิดประตูคนร้ายก็ประกบแล้วจึงต่อยเข้าที่เบ้าตาทั้งสองข้างและต่อยปาก แต่ผู้ตายต่อสู้จึงใช้มีดโกนกระหน่ำปาดไปทั้งตัวและลำคอจนผู้ตายล้มลงเสียชีวิต เบื้องต้นคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์เพราะเงินสด จำนวน 55,000 บาท หายไป ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายนำไปรวมกับเงินในกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายอีก 2 หมื่นบาท รวมแล้วกว่า 7 หมื่นบาท
ซึ่งตอนนี้ได้นำตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นกระเทย 2 คน มาสอบแล้วเนื่องจากมีพยานระบุเห็นผู้ต้องสงสัยวนเวียนอยู่บริเวณบ้านที่เกิดเหตุ