ผบก.น.1 ยื่นฟ้อง 'ชูวิทย์' ฐานหมิ่นประมาท ปมตรวจบ่อน ซ.เพชรบุรี จวกกลับให้สำนึกถึงคำพูด อย่าพูดเพราะอยากดัง
6 ส.ค.55 พล.ต.ต.พชร บุญญสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล1 (ผบก.น.1) เปิดเผยว่า ได้ให้ทีมทนายยื่นฟ้องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ สส.จากพรรครักประเทศไทยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งได้กระทำตามหน้าที่ หรือเพราะกระทำการตามหน้าที่และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากกรณีที่นายชูวิทย์ พร้อมพวกได้เข้าไปภายในซ.เพชรบุรี 5 เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งอ้างว่าเข้าไปตรวจสอบบ่อนการพนัน แล้วถูกประชาชนในพื้นที่รุมล้อมขับไล่จะเข้าทำร้ายนายชูวิทย์ ตนได้รับคำสั่งจากผบช.น.ให้เข้าไปดูแลความเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยไม่ให้กิดเหตุทำร้ายกัน เมื่อตนไปถึงพบนายชูวิทย์กำลังถูกรุมล้อม และมีการขว้างปาก้อนน้ำแข็งเข้าใส่กลุ่มนายชูวิทย์ จากประสบการณ์ของตนจึงต้องรีบนำตัวนายชูวิทย์อกกมาด้วยความปลอดภัย
ผบก.น.1 กล่าวอีกว่า ตนปฏิบัติตามหน้าที่ทุกอย่าง รวมถึงตามคำสั่งของผบช.น. แต่นายชูวิทย์กลับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อต่างๆ กล่าวหาตนว่าไม่ทำอะไร
จะให้ออกจากที่เกิดเหตุอย่างเดียว ไม่มีการจับกุม มีพฤติกรรมปล่อยปะละเลยให้มีบ่อนการพนัน และรับผลประโยชน์จากบ่อน ทำให้ประชาชนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิด คิดว่าสิ่งที่นายชูวิทย์พูดเป็นเรื่องจริง สร้างความเสียหายต่อเกียรติยศ ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ทั้งที่ความจริง ตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผบก.น.1 ก็มีนโยบายให้ตำรวจในการปกครองกวดขันจับกุมปราบปรามอาชญากรรมและอบายมุขทุกประเภท และที่ผ่านมามีผลการจับกุมอย่างเป็นรูปธรรม
“การกระทำของนายชูวิทย์ดังกล่าว ผมจึงขอใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อเรียกร้องความถูกต้องกอบกู้ชื่อเสียงเกียรติยศกลับคืนมา โดยมอบหมายให้ทนายยื่นฟ้องนายชูวิทย์ โดยไม่เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ต้องการให้นายชูวิทย์ ได้รับโทษตามกฎหมาย และให้สำนึกถึงคำพูดของตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าพูดเพราะอยากดัง หรือพูดเพราะมันปากเพียงอย่างเดียว” พล.ต.ต.พชร กล่าว
เมื่อถามว่า คำสั่งจากผบช.น.ในวันเกิดเหตุ ได้สั่งการให้จับกุมบ่อนการพนันหรือไม่ พล.ต.ต.พชร กล่าวว่า
คำสั่งจากผบช.น.มีเพียงให้ไปดูแลความเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยให้นายชูวิทย์เท่านั้น ไม่มีเรื่องบ่อนการพนันแต่อย่างใด ทั้งนี้เมื่อไปถึงที่เกิดหตุพบว่าสถานการณ์อาจจะเลวร้าย นายชูวิทย์อาจจะไม่ปลอดภัยจึงรีบนำตัวออกมาจากที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด อีกทั้งในวันเกิดเหตุ ตนไม่จำเป็นต้องลงไปพื้นที่ก็ได้ แต่ด้วยเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไทติดภารกิจ จึงลงไปจัดการเอง เข้าไปช่วยเหลือแต่กลับถูกดูหมิ่น โดยตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด