เมื่อ 6 ส.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมา รายงานว่า ที่หมู่บ้านลาดบัวขาว หมู่ 2 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เคยเกิดข่าวลือว่ามีผีกระหังออกอาละวาดบุกเข้าไปทำอนาจารหญิงสาวถึงในบ้านบ่อยครั้ง ก่อนจะกลายเป็นข่าวดัง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งรัดดำเนินการกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้ในที่สุดคือ นายเดิมเชียงแสน อายุ 30 ปี สมาชิกอาสาสมัครกู้ภัยแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำสีคิ้วอยู่ในขณะนี้
ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก่อนหน้านี้ จะเป็นผู้ที่ก่อเหตุบุกลวนลามหญิงสาวภายในหมู่บ้านของตนเอง เนื่องจากยังมีเหตุการณ์คล้ายคลึงกับก่อนหน้านี้เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง แม้ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมจะถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำก็ตาม โดยล่าสุดเกิดเหตุการณ์คล้ายมีคนมาดึงประตูบ้านของหญิงสาวในหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 01.00-03.00 น.อีกหลายครั้ง
ประกอบกับมีหลายคนในหมู่บ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นเวรยามที่จัดไว้ลาดตระเวนในหมู่บ้านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น พบเห็นเงาดำลึกลับ มีความรวดเร็ว แคล่วคล่องว่องไวเหนือมนุษย์ทุกครั้งเมื่อมีเสียงดึงประตูบ้านของชาวบ้านเกิดขึ้น และถึงแม้จะช่วยกันพยายามตามจับตัวสักเพียงใด ก็ไม่สามารถจับตัวเงาดังกล่าวได้แม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ชาวบ้านยังหวาดผวาว่าหญิงสาวในหมู่บ้านจะได้รับอันตรายจากตัวประหลาดดังกล่าว
เพื่อจัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน อีกทั้งชาวบ้านเองต่างก็พากันซ่อมแซม หน้าต่างและประตูบ้าน รวมถึงปิดช่องทางทุกช่องทางของตัวบ้านอย่างแน่นหนา เพื่อไม่ให้บุคคลหรือสิ่งใดเข้าไปภายในบ้านได้ นอกจากนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าเงาดำที่พบเห็นนั้นไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา แต่น่าจะเป็นคนที่มีวิชาอาคมต้องการพลังลึกลับบางอย่างไปเสริมสร้างบารมี จึงมีการนำแผ่นยันต์ รวมถึงแผ่นทองเหลืองที่ผ่านการปลุกเสกจากผู้ทรงศีลมาติดไว้หน้าประตูบ้าน และช่วยกันปรับภูมิทัศน์รอบหมู่บ้านให้โล่งโปร่งมากที่สุด
เนื่องจากยังมีสิ่งลี้ลับเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงกลางดึกแทบทุกคืนจะมีเสียงคล้ายมีคนมาดึงประตูบ้าน เพื่อพยายามหาทางเข้าไปในบ้าน ทั้งๆ ที่หน้าบ้านมีเวรยามเฝ้าตลอดทั้งคืน และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ก็จะมีคนพบเงาดำลึกลับปรากฏตัวขึ้น และหลบหนีไปอย่างรวดเร็วทุกครั้งโดยไม่เคยจับตัวได้เลย แม้ชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านหลายคนช่วยกันติดตามไล่ตัวก็ตาม จึงทำให้แทบทุกคนในหมู่บ้านเชื่อว่าเงาดำ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นฝีมือของผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า และมีอิทธิฤทธิ์เหนือมนุษย์ ไม่ใช่ฝีมือคนธรรมดาทั่วไปแน่นอน และไม่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของสิ่งลี้ลับนี้คืออะไร
จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากฝีมือใครกันแน่ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่พบร่องรอยการก่อเหตุแม้แต่ครั้งเดียว อีกทั้งไม่มีใครได้รับอันตราย หรือพบเห็นผู้ก่อเหตุที่พอยืนยันได้แม้แต่รายเดียว มีเพียงคำบอกเล่าปากต่อปากเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน ยังคงส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตระเวนตรวจตรารักษาความปลอดภัยรอบหมู่บ้าน ร่วมกับเวรยามของหมู่บ้านเป็นประจำทุกวันตั้งแต่เกิดเหตุขึ้นอยู่แล้ว ยืนยันว่าจะพยายามสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อคลายความวิตกกังวลของชาวบ้านให้ได้เร็วที่สุด