เผยกระต่ายติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแถบจอมทอง ไล่กัดดะคนเลี้ยงแถมคลั่งตาขวาง ก่อนจะตายแบบประหลาด นำร่างส่งตรวจเสาวภา พบติดเชื้อบ้า วอนผู้เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ ( 4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบความคืบหน้ากรณีกระต่ายติดเชื้อพิษสุนัขบ้าที่บ้านเลขที่ 22/26
ภายในซอยวิ่งวัว ถนนเทอดไท แขวงบางค้อ เขตจอมทอง พบบ้านไม้สูง 2 ชั้น อยู่ในสภาพกำลังจะรื้อถอนเพื่อย้ายที่อยู่ใหม่ โดยนายสำรวย ภุมรินทร์ เจ้าบ้าน นางศิริพร ภริยา พร้อมด้วยลูกชายลูกสาวที่ถูกกระต่ายติดเชื้อพิษสุนัขบ้ากำลังนั่งอยู่
นายสำรวย กล่าวว่า ครอบครัวตนชอบเลี้ยงสัตว์ช่วงปลายปี 54 ไปสวนจตุจักร โซนขายสัตว์เลี้ยง
เพื่อซื้อกระต่ายเพศผู้ สีขาว หูดำและเพศเมีย สีขาว พันธุ์วู๊ดดี้ทอยไปเลี้ยงในราคาประมาณ 800 บาท และได้ตั้งชื่อให้กระต่ายเพศผู้ว่า “โป๊ะโกะ” แต่เพศเมียยังไม่ทันตั้งชื่อก็ตายเสียก่อน โดยมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง จึงเลี้ยงแต่เจ้าโป๊ะโกะมาโดยตลอดกว่า 8 เดือน ซึ่งมีนิสัยเหมือนกระต่ายทั่วไป วิ่งเล่นกระโดดไปมา กินอาหารประเภทผักต่างๆ รวมทั้งกินอาหารของคนด้วย จากนั้นแฟนสาวได้ไปซื้อกระต่ายเพศเมียพันธุ์เดียวกันจากสนามหลวง 2 ในราคาประมาณ 300 บาท เพราะสงสารเจ้าโป๊ะโกะที่อยู่ตัวเดียวมานาน โดยจะปล่อยให้ทั้งคู่วิ่งเล่นอยู่ภายในบ้าน ไม่ได้ขังกรง
“ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า พอเจ้าโป๊ะโกะมีกระต่ายเพศเมียตัวใหม่มาอยู่ด้วย ก็เริ่มมีอาการแปลกๆ ไล่งับคนในบ้านที่เดินผ่าน ไม่ว่าจะเป็นส้นเท้า หน้าขา จนต้องเอาไปขังไว้ในกรง แต่พอให้อาหารก็งับมืออีก จนลูกชายโดนกัดอย่างรุนแรงถึงขนาดเลือดออกเป็นแผลยาวกว่า 4 ซม. ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกถึงความผิดปกติว่า โดนกัดแล้วจะเป็นอะไรหรือเปล่า จึงไปปรึกษาหมอ หมอบอกว่า เป็นอันตราย จึงพาลูกชายมาทำการฉีดวัคซีน 5 ครั้งที่คลินิกใกล้บ้านเพื่อป้องกันโรคไว้ก่อน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นมา จากนั้นเจ้าโป๊ะโกะ ก็มีอาการแปลกและรุนแรงขึ้น โดยจะกัดถี่ขึ้นแบบไม่ปล่อยเลย ส่วนแววตาก็มีแดงน่ากลัว กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 28 ก.ค. ขณะที่เจ้าโป๊ะโกะถูกขังอยู่ในกรงได้เกิดอาการชักกระตุก ทรงตัวไม่ได้ ก่อนจะตายลงต่อหน้าต่อตาคนในบ้าน จากนั้นวันต่อมากระต่ายเพศเมียก็ตายตามไปด้วย” นายสำรวย กล่าว
นายสำรวย กล่าวต่อว่า หลังเจ้าโป๊ะโกะตายลงทุกคนก็สงสัยว่า อยู่ๆ ทำไมถึงตาย
และตายแบบแปลกๆ หรือว่าไปกินสารเคมีเข้าไป หรือไปกินหนูตายหรือเปล่า จึงตัดสินใจนำร่างเจ้าโป๊ะโกะไปส่งที่เสาวภาให้ตรวจ ก่อนจะเดินทางไปฟังผลช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 30 ก.ค. โดยหมอระบุการตายของเจ้าโป๊ะโกะว่า กระต่ายเป็นบ้า ตนจึงขอใบเอกสารเป็นหลักฐานเก็บไว้ และไปพบหมอที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 29 โดยหมอบอกว่า ตนและครอบครัวต้องไปรักษาอย่างเร่งด่วน ทุกคนจึงรีบไปฉีดวัคซีนป้องกัน แต่ครอบครัวตนทำประกันไว้ต่างที่กัน แม่กับลูกสาวทำประกัน 30 บาท ไว้ที่ ร.พ.บ้านแพ้ว ส่วนตน ภรรยา และลูกชายทำประกันไว้ที่ ร.พ.บางไผ่ ซึ่งการเดินทางไปฉีดยาจะเสียเวลามาก ตนกลัวว่าจะเป็นอันตรายมากกว่านี้ จึงไปพบแพทย์ที่ ร.พ.ทหารเรือ เพื่อสอบถามรายละเอียดถึงโรคนี้ โดยแพทย์ระบุว่า ควรจะไปฉีดเซรุ่มฆ่าเชื้อทันที แต่ตนและครอบครัวไม่ได้ฉีดตั้งแต่ต้นจึงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้
“ยิ่งช่วงนี้ตนและภรรยามีอาการเป็นไข้ก็ไม่รู้ว่า เกิดจากการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าหรือเปล่า ทุกวันนี้ก็นอนไม่ค่อยหลับ เป็นห่วงแม่ที่อายุมากแล้ว รวมทั้งลูกเมียด้วย จึงอยากวอนหน่อยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือด่วน ครอบครัวตนยินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง” หัวหน้าครอบครัว กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
นางศิริพร ภรรยากล่าวว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่จาก ร.พ.บ้านแพ้ว และศูนย์นุชเวชมาพบพร้อมกับนำป้ายที่มีข้อความว่า “ระวังโรคพิษสุนัขบ้า พื้นที่นี้ตรวจพบพิษสุนัขบ้า” มาติดที่บ้านและใกล้เคียง และนำสัตว์มาฉีดวัคซีนป้องกันทุกตัว.