แม่ทัพภาค4ลั่นยังไม่จำเป็นประกาศเคอร์ฟิว

แม่ทัพภาค4ลั่นยังไม่จำเป็นประกาศเคอร์ฟิว


แม่ทัพภาค 4 ยันยังไม่จำเป็นต้องประกาศ 'เคอร์ฟิว' ในพื้นที่ จชต. ในขณะที่ผู้นำศาสนาใต้

ระบุการประกาศเคอร์ฟิว ส่งผลกระทบต่อการปฎิบัติศาสนกิจมุสลิมช่วงเดือนรอมฎอน

 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นายเจ๊ะ อิสมาแอล ผู้อำนวยการศูนยพัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ จ.ยะลา ได้นำคณะสมาชิกเครือข่ายโครงการเสวนาสัญจร สมาคมนักเรียนเก่าต่างประเทศจังหวัดชายแดนภาคใต้ สมาคมปัญญาชนมุสลิม ชมรมศิษย์เก่ากลุ่ม PNYS กรรมการอิสลามประจำจังหวัด โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม คณะกรรมการประสานใจ มูลนิธิฮิลาลอะห์มัร และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องที่ จำนวน 120 คน เข้าเยี่ยมคำนับ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เพื่อพบปะหารือและรับทราบนโยบายต่อการปฎิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา

ดร.วันอับดุลกอเดร์ แวมุสตอฟา รองเลขานุการคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนถือศีลอดนี้ มุสลิมจะต้องช่วยกันดูแลคนยากไร้ คนไร้การศึกษา ต้องดูแลสถานที่ศึกษา ต้องดูแลคนที่ไม่มีทางไป นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มุสลิมจะต้องทำ เดือนรอมฎอนคือเดือนที่ทุกคนจะต้องทำความดี การทำไม่ดีก็เป็นสิ่งที่อิสลามไม่ต้องการ การกระทำเป็นสิ่งที่จะนำไปสู่คำตอบที่ถูกต้อง ทำดีก็ต้องได้ดี ทำไม่ดีก็ไม่ดีตอบแทน

 “หากมีการประกาศเคอร์ฟิวในช่วงนี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อมุสลิมอย่างแน่นอน การประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงนี้ ควรจะออกจากบ้านไปที่มัสยิด หรือสุเหร่า ถ้ามีการประกาศเคอร์ฟิว ก็เหมือนกับการไปกีดกั้นการปฎิบัติของแต่ละคน เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การละหมาดที่บ้าน กับการละหมาดที่มัสยิด ผลตอบแทนที่พระเจ้าจะให้นั้นต่างกันอย่างทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนรอมฎอน” ดร.วันอับดุลกอเดร์ กล่าว

ด้านพล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 เปิดเผยว่า ตนขอยืนยันว่า ขณะนี้ ยังไม่มีการประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ สาเหตุจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาล ทางผู้ใหญ่ และหลาย ๆ ฝ่าย เป็นห่วง และ คิดว่า เรามีเครื่องมืออะไรที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งกฎหมายที่มีอยู่ เช่น พรก. ก็ใช้อยู่ เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นมา เรื่องการประกาศเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกเตหะสถาน ก็เป็นเครื่องมือหนึ่ง ก็ให้ทางพื้นที่ เป็นผู้ตัดสินใจว่า จะใช้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้คิดว่าในพื้นที่ พี่น้องประชาชนให้ความสะดวกในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่แล้วไม่เป็นอุปสรรคในการปฎิบัติงาน

 แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงไม่คำนึงอะไรไม่คำนึงถึงว่าขณะนี้เป็นเดือนแห่งการถือศีลอดเดือนแห่งการทำความดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องใช้ความพยายามในการแยกแยะออกให้ได้ และต้องยุติสิ่งเหล่านี้ให้ได้ การใช้การปฎิบัติกานทางทหารของเจ้าหน้าที่ทำเพื่อป้องปรามทั้งนั้น ไม่ได้มุ่งหมายทำร้ายใคร เราจะสร้างความเข้าใหญ่เป็นหลักใหญ่ ฉะนั้นการประกาศเคอร์ฟิว หรือห้ามประชาชนออกนอกพื้นที่ นั้น ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นนั้น คิดว่าประชาชนยังไม่เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาและเราได้รับความร่วมมือจากประชาชน ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่มากนักในการแก้ปัญหา

“ส่วนพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่มีความเป็นห่วงว่าอาจจะเป็นเป้าหมายต่อไปของกลุ่มคนร้ายที่อาจจะก่อเหตุนั้น ขณะนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็มีความตื่นตัวในเรื่องดังกล่าว และมีความพร้อมในการดูแลตัวเอง ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่นั้นก็ระดมกำลังและปฎิบัติการดูแลความปลอดภัยอย่างเพียงพอให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน” มทภ.4 กล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์