วันนี้(2 ส.ค.) นายจักรกฤษดิ์ ร่วมกูล ปลัดป้องกัน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ นำกำลัง อส.อำเภอบัวเชด
พร้อมด้วยนายกำพล มาลาล้ำ ผญบ.โคกหิน ม.1O ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ลงพื้นที่ทุ่งนาของนายนันท์ พรหมอินทร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.10บ.โคกหินฯ เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นหลังนายนันท์ฯ ระบุว่าพบเสือแม่ลูกอ่อนเดินเพ่นพ่านกลางทุ่งนาของตนเองซึ่งอยู่ห่างจากตัวหมู่บ้านเพียง 800 เมตร
ทั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพื้นที่นาดังกล่าวถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่ามีรอยเท้าคล้ายรอยเท้าเสือจำนวนมากภายในทุ่งนาอย่างเห็นได้ชัดจริง
ซึ่งรอยเท้าดังกล่าวมี 2 ขนาดเดินเคียงคู่กันไปทั้งขนาดเล็กและใหญ่ โดยรอยเท้าใหญ่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซ.ม. ส่วนรอยเท้าเล็กมีขนาดประมาณ 4 ซ.ม.มีลักษณะเป็นอุ้งเท้าคล้ายรอยเท้าเสืออย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับการยืนยันและคำบอกเล่าของชาวบ้านที่พบเห็นว่าเป็นเสือโคร่งลายพาดกลอนแม่ลูกอ่อน ซึ่งตัวแม่สูงประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตรส่วนลูกเสือสูงประมาณ 50 ซ.ม.ยาวประมาณ 2 ฟุต เดินเคียงคู่หยอกล้อกันเกลื่อนทุ่งนาดังกล่าว
นายนันท์ พรหมอินทร์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.10 บ.โคกหินฯ กล่าวว่า
วานนี้ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.ตนได้เดินทางเพื่อไปหว่านปุ๋ยในนาข้าวระหว่างนั้นได้เหลือบไปเห็นว่ามีสัตว์อะไรบางอย่างหยอกล้อกันเล่นกลางทุ่งนาอีกฝาก ซึ่งมองไม่ชัดเจน ตนเองคิดว่าเป็นสุนัข จึงใช้ไม้เคาะกับหลักไม้เพื่อไล่ให้ออกจากนาข้าวเกรงว่าต้นข้าวจะเสียหาย แต่ระหว่างเคาะนั้น สัตว์ดังกล่าวก็ได้รีบเดินหนีเข้าไปในป่าจึงได้เห็นชัดเจนขึ้นว่าเป็นเสือโคร่งลายพาดกลอนขนาดใหญ่พร้อมกับลูกอีกตัว จากนั้นตนจึงรีบกลับบ้านไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทราบดังกล่าว
ด้านนายกำพล มาลาล้ำ ผญบ.โคกหินฯ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเสือแม่ลูกอ่อนเดินเพ่นพ่านในพื้นที่ไร่นาและสานยางพารามา 3-4 วันแล้ว
จึงได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ผ่านหอกระจายข่าวและวิทยุชุมชนให้ชาวบ้านทราบและให้ระมัดระวังตัวหากต้องออกไปทำนา ทำสวนและกรีดยางพารา จากนั้นก็ได้แจ้งให้ทางอำเภอทราบและส่งได้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต่างยืนยันว่าเป็นรอยเท้าเสือจริงส่วนชาวบ้านส่วนใหญ่หลังทราบข่าวต่างหวาดระแวงไม่ค่อยกล้าออกไปทำไร่ทำนาและกรีดยางพารา เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย
นายจักรกฤษดิ์ ร่วมกูล ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอบัวเชด กล่าวว่าหลังจากได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบว่ารอยดังกล่าวเป็นรอยเท้าเสือจริง
จึงได้เรียนให้นายอำเภอบัวเชดทราบแล้วและได้มีคำสั่งให้ประสานผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลสะเดาและตำบลใกล้เคียงที่มีแนวเขตพื้นที่ติดกับป่าชายแดนไทย-กัมพูชาแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวังตัวและหากใครพบเห็นให้รีบแจ้งทางอำเภอทราบทันที ทั้งนี้ได้ประสาน จนท.ป่าไม้เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตวป่าห้วยทับทัน –ห้วยสำราญเพื่อลงพื้นที่วางแผนป้องกันและไล่ล่าต่อไป ทั้งนี้เสือดังกล่าวน่าจะเป็นเสือออกมาจากป่าในแนวตะเข็บชายแดนประเทศกัมพูชาเนื่องจาก ขณะนี้ป่าตามตะเข็บชายแดนมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกรุกเข้าตัดไม้ทำลายป่าจำนวนมากก็อาจจะเป็นสาเหตุให้เสือต้องหลบหนีเข้ามาหากินและหลงเข้ามาในฝั่งไทยก็เป็นได้