วันนี้ (2 ส.ค.)ผู้สื่ข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.พร้อมพงษ์ สนิทกลาง พงส.(สบ1) สภ.เมืองสุพรรณบุรี
รับแจ้งเหตุรถชนคนเสียชีวิตบนถนนสายเลี่ยงเมือง-ศรีษะเกศ หมู่ 5 ต.ดอนโพธิ์ทอง จึงรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุมนตรี กรรณเลขา รอง ผกก.สส. , ร.ต.ต.สายฝน หลักเพชร และหน่วยกู้ภัยเณรแก้ว
เมื่อไปถึงพบศพ นายอุดม มุ่งแห่งกลาง อายุ 53 ปีอยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 7 ต.ดอนใหญ่ อ.คง จ.นครราชสีมา
สภาพศีรษะขาด แขนขา หัก เสียชีวิต สยอง ห่างกันประมาณ 300 เมตรพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโดตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ญท 3180 กรุงเทพฯจอดอยู่กลางถนน สภาพหน้ารถพังยุบกระจกหน้าฝั่งคนขับแตกเป็นรูโบ๋มีเลือดเปื้อน หลังคามีรอยเลือดกระเซ็น พวงมาลัยมีรอยถูกกระแทกจนบิดงอ เปิดประตูสำรวจห้องผู้โดยสารฝั่งคนขับ บริเวณที่วางเท้าด้านซ้ายพบศีรษะของผู้ตายตกอยู่ ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายอุดม ได้มาเยี่ยมภรรยาเก่า ซึ่งได้เลิกรากันไปนาน
เนื่องจากฝ่ายหญิงไปมีสามีใหม่ โดยภรรยาเก่าไม่ต้อนรับทำให้นายอุดม เสียใจและเครียดจึงไปซื้อเหล้าขาวที่ร้านขายของชำ ดื่ม ก่อนจะเดินลัดเลาะมายังถนนสายเลี่ยงเมืองโดยเดินอยู่เลนขวาของถนน ขณะกำลังเดินอยู่บนถนนซึ่งเป็นที่มืด ทำให้รถเก๋งคู่กรณี ที่ขับมาด้วยความเร็วสูงมองไม่เห็น พุ่งชนอย่างแรงจนศีรษะขาดกระเด็นออกจากตัวไปตกอยู่ในรถ นอกจากนี้รถเก๋งยังลากศพนายอุดม ครูดไปตามถนนเป็นระยะทางยาวเกือบ 300 เมตร จนร่างกายแหลกเหลวแขนขาหักทั้งสองข้าง
ต่อมาคนขับรถยนต์ ได้โทรศัพท์ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนทราบชื่อ นายวรรณทัศน์ จ่ายกระโทก อายุ 37 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 385/1 หมู่ 9 ต.ท่าโลง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยให้การเบื้องต้นว่าตนทำงานเป็นเซลล์ขายปุ๋ยและยา เคมีทางการเกษตร ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกลับจาก อ.อู่ทอง มุ่งหน้ากลับบ้านพัก ที่ ต.โพธิ์พระยา เพียงลำพัง ด้วยความเร็วสูงถึงจุดเกิดเหตุเป็นที่มืดไม่มีไฟส่องสว่างตนมองไม่เห็นผู้ตาย ที่เดินอยู่บนถนนจึงพุ่งชนเต็มแรงศีรษะตกมาอยู่ในรถ ทำให้ตื่นตกใจหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง จึงได้หลบไปตั้งหลัก ก่อนจะขอเข้าพบพนักงานสอบสวนพร้อมยอมรับผิดชอบเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็น เหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตายอย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวน สาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งเพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีต่อไป