ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สนามหลวง เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ศาลนัดประชุมคดีหมายเลขดำหมาย 1233/2554
ที่อัยการฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องน.ส.แพรว ( นามสมมุติ) อายุ 18 ปี เป็นจำเลย ความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุในผู้อื่นถึงแก่ความตาย และได้รับอันตรายต่อร่างกายบาดเจ็บสาหัส และทรัพย์สินเสียหาย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถยนต์ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 27 ธ.ค.53 เวลากลางคืน จำเลยขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค หมายเลขทะเบียน ฎว-8461 กรุงเทพมหานคร ขึ้นบนทางยกระดับโทลล์เวย์ ขาเข้ามุ่งหน้า ถ.ดินแดงด้วยความเร็วสูงเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ซึ่งศูนย์รังสิต – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งมีนาง นฤมล ปิตาทานัง อายุ 38 ปี เป็นคนขับทำให้รถยนต์ตู้เสียหลักหมุนไปชนขอบกั้นทางโทลล์เวย์ พลิกคว่ำพังเสียหาย คนขับรถตู้โดยสารและผู้โดยสารภายในรถยนต์ตู้กระเด็นออกจากตัวตกจากทางด่วนเสียชีวิตรวม 9 คน และบาดเจ็บสาหัสจำนวนหนึ่ง
โดยศาลได้ออกหมายเรียกเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาประชุมร่วมกัน โดยญาติผู้เสียหายเดินทางมาศาลเกือบครบ
ซึ่งที่ประชุมหารือถึงมาตรการเยียวยาอีกครั้งหนึ่ง นำโดยนางทองพูน พานทอง มารดาของคนขับรถตู้ นางถวิล เช้าเที่ยง มารดาของดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง และทนายความ ส่วนครอบครัวของพ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ บิดาของนางสาวชุติพร นิลวรรณ ได้ส่วนตัวแทนมา ขณะที่บางครอบครัวไม่ได้เดินทางมาศาลเนื่องจากอยู่ต่างจังหวัดและไมได้รับหมายเรียก ด้านน.ส.แพรวเดินทางมาพร้อมพ่อและแม่โดยรถตู้ และได้หลบผู้สื่อข่าวเข้ามาภายในอาคารทันที
ทั้งนี้ นายจิรนิติ หะวานนท์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
แถลงภายหลังศาลออกหมายเรียกให้ครอบครัวผู้เสียหายและจำเลยมาประชุมหารือมาตรการเยียวตามกฎหมาย โดยระบุว่า ตามหลักพ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และกติกาสากลที่อยู่ในอนุสัญญาสิทธิเด็ก ต้องแก้ไขฟื้นฟูเด็กให้กลับมาเป็นคนดีและอยู่ในสังคมต่อไปได้ ซึ่งคดีนี้ศาลได้ดำเนินการประชุมกลุ่มครอบครัวผู้เสียหาย และสหวิชาชีพตามกฎหมาย มาตรา 132 เพื่อนำไปสู่การกำหนดวิธีขั้นตอนมาตรการเยียวยา และบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน โดยให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาช่วยกันคิด เพราะหากศาลคิดเองอาจไม่เหมาะสม และเด็กไม่สามารถปฏิบัติได้ ซึ่งในการประชุม 3 ครั้งก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายได้บอกความต้องการของตนเองมาแล้ว แต่ในวันนี้ฝ่ายครอบครัวผู้เสียหายและจำเลยมีโอกาสพูดคุยกันเป็นครั้งแรก จะตกลงกันได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับบรรยากาศในที่ประชุม หากไม่สามารถตกลงกันในวันนี้ได้ ก็สามารถขยายระยะเวลาในการพูดคุยของทั้ง 2 ฝ่ายออกไปได้ แต่อย่างมากที่สุดควรใช้ระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน