พ่อพลทหารเหยื่อโจรใต้ภูมิใจลูกชายทำหน้าที่ทหารกล้า ขณะที่ภรรยาเผยก่อนไปปฏิบัติหน้าที่บอกหากตายต้องตายแบบคลุมธงชาติไทยเท่านั้น
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ศาลาการเปรียญวัดท้ายสำเภา หมู่ที่ 1 ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพพลทหารเอกลักษณ์ สีดอกไม้ หนึ่งใน 4 ทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าของบรรดาญาติพี่น้องเพื่อนๆที่มาร่วมงาน อย่างไม่ขาดสาย โดยมี นายจรุง สีดอกไม้ และนางทองศรี สีดอกไม้ พ่อแม่ รวมทั้งน.ส.วิวชุตา ราชรงค์ ภรรยาของพลฯเอกลักษณ์คอยให้การต้อนรับแขกเหรื่อที่เข้ามาร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก
นายจรุงเปิดเผยถึงความรู้สึกด้วยน้ำตานองหน้าว่า มีลูกชายเพียงคนเดียวคือพลฯเอกลักษณ์
ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์ที่ทำหน้าที่ไปรับใช้ชาติและใกล้จะครบกำหนดโดยเหลือเวลาอีกเพียง 2-3 เดือนเท่านั้นแต่มาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเสียก่อน รู้สึกเสียใจเป็นที่สุดในชีวิตคิดไม่ถึงว่าลูกจะมาตายก่อนพ่อ แต่ในความเสียใจนั้นกลับมีความภาคภูมิใจมากกว่าที่ลูกชายได้ทำหน้าที่ของคนไทย ในบทบาทของทหารไทย ทหารขององค์พระราชาผู้ยิ่งใหญ่ ที่ทรงรักพสกนิกรของพระองค์ท่านมากกว่าพระองค์เอง การทำหน้าที่ของลูกชายแม้จะต้องแลกมาด้วยชีวิต ซึ่งถือเป็นการทำหน้าที่ที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่านในการรักษาแผ่นดินขององค์ราชาผู้ยิ่งใหญ่
นายจรุงยังกล่าวต่อไปว่า ขอร้องให้ผู้ที่คิดหรือกำลังก่อเหตุความไม่สงบอยู่ในขณะนี้หยุดการกระทำดังกล่าวเพราะไม่มีประโยชน์อันใด มีแต่ความสูญเสียอย่างเดียวเท่านั้น อย่างที่เขาต้องสูญเสียลูกชายลูกคนเดียวของเขา
ขณะที่ น.ส.วิวชุตาที่เพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน
กล่าวว่าหากถามว่าเสียใจกับการสูญเสียคนรักไหม ตนไม่มีคำพูดที่จะสื่อให้เห็นถึงความรู้สึกได้ แต่ภูมิใจที่สามีได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด อย่างที่เขาเคยให้สัญญาว่า”หากต้องตายศพของเขาจะต้องคลุมด้วยธงชาติไทยเท่านั้น” ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาปรารถนาไว้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงศพของพลฯเอกลักษณ์ กำหนดขึ้นในวันจันทร์ที่ที่ 6 ส.ค.นี้ ที่ฌาปนสถานวัดท้ายสำเภา หมู่ที่ 1 ตำบลท้ายสำเภา อำเภอพระพรหม