ล็อก 4 ต้องสงสัยรุมยิงแท็กซี่ปางตาย

จากเหตุการณ์ที่ นายกนก สุขดิษฐ์ อายุ 50 ปี โชว์เฟอร์แท็กซี่เลือดร้อน ได้ขับรถฝ่างานเลี้ยงอุปสมบท ที่จัดขึ้นภายในซอยนวลเนตร หมู่ 3 ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทร ปราการ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บหลายคน ขณะที่โชเฟอร์แท็กซี่ถูกรุมประชาทัณฑ์และถูกมือดี ยิงซ้ำจนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.พ. นพ.ชัยณรงค์ สมชาติ รอง ผอ. ฝ่ายการแพทย์ รพ.สมุทรปราการ

ได้เปิดเผยถึงอาการของนายกนก ว่า คมกระสุนเข้าไปถูกปอดข้างขวาจนฉีกขาด มีเลือดคั่งอยู่ในปอดจำนวนมาก นอกจากนี้บริเวณศีรษะยังมีบาดแผลถูก กระแทกด้วยของแข็งอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน อาจจะส่งผล ให้กะโหลกร้าวได้ จึงจำเป็นต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะแม้คนไข้มีอาการตอบสนองทุกอย่าง แต่อาการทั่วไปยังน่าเป็นห่วง และยังอยู่ในขั้นวิกฤติ

ทางด้าน พ.ต.ท.ปภาณ วงศ์ชนเดช พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยบางปู เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ ไปแล้ว 15 คน รวมทั้งได้เชิญตัว นางอัมพร เสมแก้ว และนายอเนก สุขดิษฐ์ ภรรยาและบุตรชายของนายกนก มาสอบปากคำเพิ่มเติม ใน

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ พระอนุสรณ์ เจ้าของงานเลี้ยงฉลองต้นเหตุ ได้เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าในวันเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์จริง แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนใช้อาวุธปืนมายิงนายกนก หลังจากนั้นจึงเดินทาง กลับไป พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นรูปถ่ายที่มีตากล้องสมัครเล่น ถ่ายภาพในขณะเกิดเหตุชุลมุนเอาไว้ได้ ซึ่งพบว่ามีหลายคนที่ร่วมกันลงมือทำร้ายโชเฟอร์แท็กซี่

ส่วน พ.ต.ท.สง่า ธีรศรัณยานนท์ หน. สภ.ย่อยบางปู เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 4 ราย มาตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้งสองข้าง พร้อมทั้งส่งไปตรวจที่สำนักงานกองพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คาดว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะรู้ผล ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายกนก ผู้บาดเจ็บคือทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาตรวจเก็บหลักฐานอื่น ๆ ภายในรถแท็กซี่คันที่เกิดเหตุ พบว่าภายในรถมีทั้งก้อนหินขนาดใหญ่ และขวดโซดา-ขวดเหล้า รวมทั้งไม้และเหล็กที่ถูกขว้างปาเข้ามาในรถจำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน ในการดำเนินคดีกับผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้.