เมื่อเวลา 22.00 น.วันนี้ (20 ก.ค.) พ.ต.ท.สมชาย มวยดี สวป.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ได้รับแจ้งว่ามีชายคลุ้มคลั่งอาละวาดทำลายทรัพย์สินภายในบ้านเลขที่ 247 ชุมชนลูกแม่อ่างทอง ถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง และยังพยายามทำร้ายคนในบ้านรวมทั้งชาวบ้านในละแวกข้างเคียง จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น พบชายฉกรรจ์อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งรูปร่างผอม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ มีรอยสักทั่วร่างกาย ไว้ผมทรงเดรดล็อกยาวถึงตะโพก ในมือถือมีดสปาต้าเล่มใหญ่ยาวกว่า 2 ฟุต กำลังอาละวาดทุบทำลายข้าวของเครื่องใช้ในบ้านจนเสียหาย จึงตำพยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมแต่กลับถูกชายดังกล่าวต่อว่าไม่ให้ยุ่งพร้อมบอกว่าจะฆ่าพ่อของตัวเองซึ่งขณะเกิดเหตุไม่อยู่บ้านให้ได้
ขณะที่ตำรวจกำลังเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าวยอมวางอาวุธได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า
แม่และเมียของผู้ก่อเหตุยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เพราะเกรงจะถูกทำร้ายร่างกาย ตำรวจจึงวิทยุขอสนับสนุนพลแม่นปืนนำปืนกระสุนยางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าชาร์ทจับกุมก่อนจะเกิดเหตุร้าย แต่ผู้ก่อเหตุไหวตัวทันจึงชิงหนีขึ้นไปหลบซ่อนบนห้องนอนชั้น2 ทำให้แม่และภรรยาชาวต่างชาติซึ่งซ่อนตัวอยู๋รีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมา ตำรวจนำกำลังเข้าไปในบ้านเพื่อควบคุมตัวผู้ก่อเหตุและพยายามเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัวอยู่นานแต่ไม่เป็นผล
สอบสวนเบื้องต้น แม่ของผู้ก่อเหตุให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือนายสมชัย นิลสมกิจ หรือ ”เอก เร้กเก้ “ อายุ 31 ปี
เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชหลายปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาในสภาพติดยาเสพติดงอมแงมมากกว่าเดิม เมื่อเสพยาเข้าไปจะมีอาการเกรี้ยวกราดผิดปกติ โดยหลังพ้นโทษบุตรชายได้ไปคบหากับกลุ่มผู้เสพยาเสพติดชาวต่างชาติใน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี จนได้เมียเป็นหญิงชาวต่างชาติ ก่อนจะพากันมาอยู่กินที่บ้าน โดยไม่ทำงานทำการใด ๆ ในขณะที่เมียฝรั่งได้ไปสมัครเป็นอาจารย์สอนภาษาสถานศึกษาเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
แต่นายสมชัย มักจะมีอาการคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของภายในบ้านพร้อมข่มขู่จะทำร้ายพ่อแม่และเมียฝรั่งเป็นประจำ
กระทั่งหลายวันก่อนนายสมชัย ได้ขู่ให้พ่อและแม่ไปเบิกเงินจากธนาคารมาให้ 1 ล้าน เพื่อจะไปซื้อรถเก๋งป้ายแดงมาขับ แต่พ่อและแม่ไม่ยอม ทำให้นายสมชัยไม่พอใจมาก ถึงกับประกาศจะฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าของตัวเองให้ตาย โดยจัดเตรียมมีดสปาต้าและไม้หน้าสามเอาไว้ก่อเหตุ แต่พ่อของนายสมชัยรู้ก่อนจึงไม่กล้ากลับเข้าบ้าน นายสมชัยจึงยิ่งเครียดหนัก จนเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดรื้อทำลายทรัพย์สินภายในบ้านจนพังยับเยิน
เมื่อเจ้าหนน้าที่ทราบว่านายสมชัยไม่มีอาวุธปืนจึงตัดสินใจพังประตูห้องนอนชั้น 2 บุกเข้าไปจับกุมตัวนายสมชัย เอาไว้ได้ ท่ามกลางความโล่งใจของทุกฝ่าย ก่อนควบคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพักพร้อมดำเนินการตามกฎขั้นตอนของกฎหมายต่อไป .