จับบก.ข่าวเคเบิลหื่นแอบถ่ายพนง.ในห้องน้ำ

เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 16 กรกฎาคม ในขณะที่ พ.ต.ท.สมภพ สุภาพร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ

กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพักได้มี น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้ประกาศข่าวบริษัทเคเบิ้ลทีวีชื่อดังย่าน จ.สมุทรปราการ น.ส.ซี น.ส.ดี และน.ส.เอฟ (นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวของบริษัทเคเบิ้ลดังกล่าว ได้นำหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวีดีโอ ที่แอบถ่ายในห้องน้ำจำนวนมาก เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้จับกุม นายธีรรัตน์ เจริญภัคดี อายุ 54 ปี บรรณาธิการข่าว บริษัทเคเบิ้ลชื่อดังย่าน จ.สมุทรปราการ ที่ลักลอบนำกล้องถ่ายวีดีโอลับแบบรีโหมด เข้าไปติดตั้งแอบถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าวในบริษัท ขณะเข้าไปทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำ หลังรับแจ้งและตรวจดูหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด

ทั้งนี้ หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.สมภพ จึงได้นำกำลังเดินทางมาเชิญตัวนายธีรรัตน์

ในขณะนั่งทำงานอยู่ที่ ชั้น 3 ของบริษัท ซึ่งเป็นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว พร้อมด้วยของกลางกล้องแอบถ่ายลักษณ์รีโหมดคอนโทรน จำนวน 3 ตัว กล่องวีดีโอแบบแท่ง จำนวน 1 ตัว และเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค จำนวน 1 เครื่อง พร้อมด้วยฮาร์ทดิสแบบพกพา ขนาด 1 เทเลอร์ไบร์ จำนวน 2 ตัว


จับบก.ข่าวเคเบิลหื่นแอบถ่ายพนง.ในห้องน้ำ

จากการตรวจสอบข้อมูลทั้งในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คและฮาร์ทดิสแบบพกพาทั้งหมดพบมีคลิปแอบหญิงสาวที่เข้าไปทำภารกิจส่วนตัวในห้องน้ำอยู่ จำนวน 46 คลิป

 ซึ่งเห็นใบหน้าและอวัยวะทุกส่วนของผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายข่าวและผู้ประกาศข่าวร่วมทั้งฝ่ายเทคนิคของบริษัทเคเบิ้ลดังกล่าวที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายจำนวนหลายคน และมีบางคลิปที่เห็นใบหน้าของ นายธีรรัตน์ บรรณาธิการข่าวบริษัทเคเบิ้ล ที่กำลังติดตั้งกล้องลับดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งหมดมีภาพผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิง จำนวน 9 คน ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าว และนักศึกษาฝึกงาน ที่ถูกแอบถ่ายทุกสัดส่วน ซึ่งในวันนี้มีผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์เพียง 5 คน ส่วนในวันพรุ่งนี้ผู้เสียหายอีก 4 คนที่มีภาพแอบถ่ายในคลิปจะเดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้ง

                
นายเอ (นามสมมุติ) พนักงานฝ่ายข่าว เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะที่ตนเข้าไปในห้องน้ำที่บริเวณ ชั้น 3 ของบริษัท
 
ซึ่งเป็นแผนกฝ่ายข่าว ได้พบเห็นวัตถุบางอย่างตกลงมาจากใต้อ่างล้างหน้า ซึ่งอยู่ภายในห้องน้ำ จึงได้หยิบมาดูได้พบว่าเป็นกล้อง แอบถ่ายแบบรีโหมดคอนโทรนสีดำ จึงได้ก้มลงไปดูที่ใต้อ่างล้างหน้าพบว่ามีกระดาษกาว 2 หน้าติดอยู่ใต้อ่างและมีผ้ากาวสีขาวซึ่งเป็นสีเดียวกันอ่างล้างหน้าติดอยู่ จึงได้สำรวจทุกส่วนในห้องน้ำได้พบว่าที่บริเวณใต้ที่ใส่กระดาษชำระยังมีกล้องแอบถ่ายแบบเดียวกันติดอยู่อีก 1 ตัว ในอ่างชักโครกด้านหน้าอีก 1 ตัว บนฝ่าเพดานอีก 1 ตัว รวม 4 ตัว

ตนจึงได้นำกล้องที่ตกลงมาไปติดตั้งไว้ที่เก่าก่อนที่จะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปกล้องที่ติดตั้งตามจุดต่าง ๆ เอาไว้ทั้งหมด
 
ก่อนที่จะนำเรื่องมาแจ้งให้ผู้จัดการบริษัททราบ และร่วมกันวางแผนหาตัวผู้ที่นำกล้องแอบถ่ายดังกล่าวเข้าไปติดตั้งเอาไว้ในห้องน้ำ โดยที่ผู้จัดการให้ตนคอยจับตาดูพนักงานฝ่ายข่าวที่ทำงานอยู่ทีบริเวณ ชั้น 3 ทุกคนที่เข้าออกห้องน้ำในชั้นดังกล่าว จนกระทั้งในช่วงเย็นก่อนที่ผู้ประกาศข่าวจะเข้าไปอ่านได้เข้าไปในห้องน้ำและออกมา หลังจากนั้น นายธีรรัตน์ ได้เดินเข้าไปในห้องน้ำเดียวกัน ก่อนที่จะเดินออกมาท่าทางมีพิรุจในมือกำวัตถุบางอย่างเอาไว้ ซึ่งเป็นลักษณ์คล้ายรีโหมดสีดำ ตนจึงได้จับตามองได้พบว่า นายธีรรัตน์ได้เห็นวัตถุดังกล่าวเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค พักใหญ่นายธีรรัตน์ ได้ดึงวัตถุดังกล่าวออก และเดินออกไปจากห้องทำงาน โดยที่ไม่ได้ปิดคอมพิวเตอร์ จึงได้เข้าไปเปิดข้อมูลในคอมดูพบว่า เป็นภาพแอบถ่ายผู้ประกาศข่าวที่เข้าไปทำภารกิจในห้องน้ำ ซึ่งมีภาพอยู่หลายมุม

นอกจากนี้ยังมีคลิปแอบถ่ายในห้องน้ำของบริษัทอีกหลายสิบคลิป ซึ่งล้วนแต่เป็นพนักงานฝ่ายข่าวของบริษัททั้งผู้ชายและผู้หญิง
 
ซึ่งมีการเขียนชื่อผู้เสียหายที่ถูกแอบถ่ายเอาไว้ทุกกล่อง ตนจึงได้โอนถ่ายข้อมูลบางส่วนใส่ฮาร์ทดิสแบบพกพาของตนก่อนที่จะนำมาให้ผู้จัดการดูพร้อมด้วยผู้เสียหาย ก่อนที่ผู้จัดการจะพาผู้เสียหายทั้งหมดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวน นายธีรรัตน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ติดตั้งกล้องแอบถ่ายจริง โดยอ้างว่าเก็บไว้ดูเอง ไม่ได้นำไปเผยแพร่แต่อย่างใด


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา กระทำการให้ผู้อื่นได้รับความอับอาย หรือก่อให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ก่อนควบคุมตัวเอาไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์