เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (16 ก.ค.) พ.ต.อ.ธนกฤต ไชยจารุวุฒิ ผกก.สน.บางขุนเทียน
พ.ต.ท.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ, พ.ต.ท.ปัญญา กุลไทย สว.สส.สน.บางขุนเทียน ร่วมกัน แถลงข่าวจับกุมตัวนายสุพรรณ์ หรือ “หนึ่ง บรรจงปรุ” อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151/5 ถ.ริมทางรถไฟสายท่าเรือ แขวงและเขตคลองเตย กรุงเทพฯ และนายราเมศ หรือ “เคน ค้างคีรี” อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.5 ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พร้อมของกลางธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท รวม 5 ใบ ธนบัตรปลอมใบละ 100 บาท รวม 30 ใบ พร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องปริ้นท์เตอร์อีก 1 ชุด โดยจับกุมตัวได้ที่แยกนิลกาจ ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพฯ
พ.ต.อ.ธนกฤต กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา
มีสายลับแจ้งว่ามีผู้นำธนบัตรปลอมมาขายและใช้จ่ายในพื้นที่จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ภีรชาติ คุ้มสังข์ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน ทำการวางแผนขอล่อซื้อจากทางผู้ผลิตโดยสั่งซื้อธนบัตรปลอมจำนวน 10,000 บาท ในราคา 2,000 บาท นัดหมายให้มาส่งของกลางที่แยกนิลกาจ ถนนกัลปพฤกษ์ เมื่อนายสุพรรณ์ปรากฏตัวตามนัดหมายจึงควบคุมตัวไว้ได้พร้อมของกลางธนบัตรปลอมทั้งหมด ก่อนนำตัวไปตรวจค้นห้องพักที่ซอยวัดบรรฑูรสิงห์ ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พบนายราเมศ อยู่ในห้องพร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์กับปริ๊นท์เตอร์ได้อีก 1 ชุด จากนั้นจึงควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายมาสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบสวน นายสุพรรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานพลาสติกย่านสมุทรสาคร
พักอยู่กับนายราเมศ ที่ห้องเช่าดังกล่าว ส่วนแบงก์ปลอมที่ทำขึ้นนั้นไม่ได้ใช้เครื่องมือพิเศษแต่อย่างใด ตนลองผิดลองถูกเองไม่มีใครสอนให้ทำ เพราะเคยเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์มาก่อน จึงมีเพียงคอมพิวเตอร์ เครื่องปริ๊นท์เตอร์ที่สามารถถ่ายเอกสารได้และกระดาษเอ 4 ธรรมดาเท่านั้น สำหรับเทคนิคเวลาจะปลอมแปลมต้องเลือกแบงก์ต้นฉบับที่ค่อนข้างเก่าเพื่อให้สีสันของแบงก์ปลอมออกมาเหมือนของจริงไม่อย่างนั้นสีจะดูสดหลอกตา ซึ่งตนจะเลือกทำปลอมเฉพาะแบงก์ฉบับละ 100 และ แบงก์ฉบับละ 1,000 เท่านั้นเนื่องจากเหมือนจริงที่สุดมองกลางคืนแทบไม่เห็นความแตกต่าง โดยถ้าหากจะปลอมแบงก์ 100 จะใช้กระดาษเอ 4 สีชมพู และถ้าหากจะปลอมแบงก์ 1,000 จะใช้กระดาษเอ 4 สีขาว พอปริ๊นท์ออกมาเป็นแผ่นแล้วก็จะใช้กรรไกรตัดให้เสมอขอบ ที่ผ่านมาเคยทำใช้ชำระค่าแท็กซี่และซื้อของตามร้านสะดวกซื้อได้อย่างปกติ เพิ่งจะตัดสินใจทำออกขายให้ลูกค้าได้เพียง 2 ครั้งก็มาโดนจับเสียก่อน ส่วนที่คิดปลอมธนบัตรขึ้นมานั้น เพื่อนำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาหนักจำนวน 2 ข้อหา คือ
ร่วมกันทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตราไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร พันธบัตรรัฐบาลใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจออกใช้ และร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งที่ตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นเงินตราปลอมหรือแปลง ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.