ฆ่า3ศพ!หมกสวนพิษณุโลก

มือปืนเหี้ยมบุกยิงลูกเจ้าของสวนยางชาติตระการ พิษณุโลก ดับพร้อมคนงานรวม 3 ศพ คากระท่อมกลางสวนยาง พ่อสงสัยหายไปข้ามคืนให้น้องชายคนตายไปดูพบเป็นศพแล้ว คาดคนร้ายมาตีสนิทแล้วจ่อยิงเผาขน ส่วนสาเหตุน่ามาจากกลุ่มนายทุนที่จ้างชาวบ้านไปตัดไม้ในป่าสงวนฯ แต่ถูกจับทั้งคนทั้งไม้เมื่อวันก่อน คิดว่ากลุ่มผู้ตายเป็นสายให้เจ้าหน้าที่จึงมาตามล้างแค้น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ก.พ. พ.ต.ต.อนุศิษฏ์ ปารมีวิศิษฏ์ สารวัตรเวรสภ.อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดที่กระท่อมกลางสวนยางบ้านตีนตก หมู่ 15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สมมาตร ศรีภิรมย์ ผกก.สภ.อ.ชาติตระการ พ.ต.ท.สมนึก สุวรรณฤทธิ์ รองผกก.สส. แพทย์เวรโรงพยาบาลชาติตระการ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมชั้นเดียวยกพื้นสูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร หลังคามุงด้วยสังกะสี ฝาด้านข้างเปิดโล่งทั้ง 4 ด้าน และใต้ถุนของกระท่อมได้นำไม้ตีไว้รอบ

ภายในกระท่อมพบศพนายณัฐพงษ์ รุ่งเรือง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/2 หมู่ 15 ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ลูกชายเจ้าของสวนยาง ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ศีรษะจนกะโหลกด้านหน้าเปิด มันสมองกระจายเกลื่อนพื้น ศพที่สองคือนายสามารถ ชาติวงศ์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 365/16 หมู่ 1 ต.อรัญญิก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ซอกคอด้านขวานอนเสียชีวิตจมกองเลือด และที่ใต้ถุนของกระท่อมพบศพนายพจน์ นวดประโคน อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ 2 ต.หลักเขต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ถูกยิงด้วยปืนชนิดเดียวกัน กระสุนเข้าที่หน้าท้องนอนเสียชีวิตจมกองเลือด ในที่เกิดเหตุพบกระดาษรองอัดกระสุนปืนตกอยู่ 5 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจชันสูตรของแพทย์คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ชั่วโมง

จากการสอบสวน นายเจริญ รุ่งเรือง อายุ 43 ปี บิดาของนายณัฐพงษ์ทราบว่า ตนมีอาชีพเกษตรกรรม กระทั่งเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจึงหันมาปลูกยางพารา บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ เนื่องจากเห็นว่าเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจะสร้างรายได้ดี และพื้นที่ดังกล่าวยังมีนายทุนจากทางภาคใต้เข้ามากว้านซื้อที่ดินเพื่อทำการปลูกยางเป็นจำนวนมาก โดยมีนายณัฐพงษ์ลูกชายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักช่วยทำงาน ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา นายณัฐพงษ์พร้อมคนงานอีก 2 คนออกไปทำงานภายในสวนยางดังกล่าวแล้วไม่กลับเข้าบ้านอีกเลย และเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 3 ก.พ.เช่นเดียวกัน มีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นที่สวนยางพาราของตน 4-5 นัด ตนเกิดความสงสัยเนื่องจากลูกชายจะกลับบ้านทุกวันจึงให้น้องชายของผู้ตายออกไปตามที่สวนยาง พบว่าลูกชายพร้อมคนงานถูกยิงเสียชีวิตอยู่ที่กระท่อมหลังดังกล่าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่า 3 คน พร้อมอาวุธครบมือและเป็นคนในพื้นที่ เนื่องจากคนร้ายรู้เวลาที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คนมาทำงาน โดยคนร้ายทำทีเข้ามาตีสนิทและพูดคุยกับผู้เสียชีวิตทั้งสามที่กำลังนั่งพักอยู่บนกระท่อมดังกล่าว เมื่อสบโอกาสจึงจ่อยิงนายณัฐพงษ์และนายสามารถในระยะเผาขนจนเสียชีวิต ส่วนนายพจน์อาจเห็นคนร้ายจึงกระโดดหนีตายลงไปหลบอยู่ใต้ถุน แต่วิ่งหนีไม่ได้เนื่องจากมีลูกกรงขวางไว้จึงถูกคนร้ายตามเข้าไปจ่อยิงจนเสียชีวิตดังกล่าว

ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งประเด็นการสังหารโหดไว้หลายประเด็น ประเด็นแรกมุ่งไปที่กลุ่มของผู้ตายเห็นกลุ่มของนายทุนจ้างชาวบ้านเข้าไปลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนฯ แต่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปจับกุมและยึดไม้ทั้งหมดไว้ โดยกลุ่มดังกล่าวคิดว่าผู้ตายเป็นสายให้กับเจ้าหน้าที่จึงส่งมือปืนมาก่อเหตุดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ทิ้งประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวเพื่อจับกุมมือปืนโหดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป