เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.ค. พ.ต.ท.โกมล พืชผล สวส.สภ.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนถนนพระราม 2 ขาขึ้น ก.ม.ที่ 74-75 ม.5 ต.ยี่สาร จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้ายาริส สีดำ ทะเบียน กท 2515 ระยอง จอดอยู่ในร้านขายปลาทู และปลาสลิดตากแห้ง สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในรถมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ที่นั่งคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำร่างออกมาทราบชื่อ พ.ต.ท.นรุตม์ชัย แก้วลี อายุ 47 ปี สวป.สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง อยู่บ้านเลขที่ 77/183 ม.1 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพคอหักเลือดท่วมตัว ภายในรถพบปืนเอ็ม-16 และปืนพกขนาด 11 ม.ม. รวม 2 กระบอก, เสื้อเกราะกันกระสุน 1 ตัว, วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง
ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าคัมรี่สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฌน 428 กรุงเทพฯ ถูกชนท้ายพังยับเยิน ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร
พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าเซลิกา สีดำ ทะเบียน ธบ 2337 กรุงเทพฯ หงายท้องอยู่ริมถนนสภาพพังยับเยินเป็นเศษเหล็ก ยางล้อหลังด้านซ้ายแตก มีนายนพเก้า โอ้โลม อายุ 32 ปี ชาวอำเภอบางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงรีบนำส่งร.พ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม ห่างออกไปอีกประมาณ 100 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ถฬ 2168 กรุงเทพฯ จอดอยู่ริมถนนสภาพด้านหน้าพังยับเยิน
รถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลตสีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก-2704 สุราษฎร์ธานี
มีรอยเฉี่ยวชนด้านขวาได้รับความเสียหายเล็กน้อยจอดอยู่อีกหนึ่งคัน มีนายอำนาจ จิตร์หาญ อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นคนขับ นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าไปก่อนแล้ว คือ น.ส.ไพรวรรณ ประภาวงษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 หมู่ 1 ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นแม่ค้าขายปลาสลิดและปลาทูข้างทางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สอบสวนน.ส.ไพรวรรณให้การว่า รถในกลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุบางคันน่าจะแข่งกันมา
เพราะวิ่งกันมาด้วยความเร็วสูงถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดคล้ายยางระเบิดและรถเโตโยต้าเซลิกาสีดำเสียหลักส่ายบนถนน ส่งผลทำให้รถคันอื่นๆ ต้องหักหลบกะทันหันทำให้ต่างเสียหลักและเกิดเฉี่ยวชนกันจน แต่ไม่ทันดูว่าคันไหนชนกับคันไหน ขณะเดียวกันรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริช สีดำ ทะเบียน กท-2515 ระยอง พุ่งเข้ามาในร้านแต่กระโดดหนีทันจึงรอดตาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป