นศ.มธ.ซิ่งสยอง ดับ 2 ศพ อัดเสาไฟโค่น

"ซิ่งสยองชนเสาหมุนเละทั้งคัน"


เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 4 ก.พ. พ.ต.ท.ภูวดิท คงเพ็ชร พงส. (สบ2) สน.คลองตัน รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้ามีผู้เสียชีวิต บริเวณหน้าตึกแถวเลขที่ 2363-2365 ถนนเพชรบุรีฝั่งขาออก แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุพบรถนิสสัน ซันนี่ ซุปเปอร์ซาลูน สีดำ ทะเบียน พษ 615 กรุงเทพมหานคร ในสภาพพังยับเยินอยู่บนฟุตปาท ตัวถังด้านซ้ายระหว่างประตูหน้ากับประตูหลังยุบลึกเข้าไปครึ่งคัน หลังคายุบลงมาเกือบติดเบาะนั่ง กระจกทุกด้านแตกร่วงเกลื่อนเต็มถนน ภายในรถพบศพ 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายศิขพล ชาวปากน้ำ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301/59 ซอยพาณิชอนันต์ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ติดอยู่บนเบาะนั่งข้างคนขับ

อีกศพอยู่บนเบาะหลังชื่อนายภูมินทร์ หาพุฒพงษ์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ซอยลาดพร้าว 80 แยกที่ 1 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา นำส่งแผนกนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี ผ่าพิสูจน์ต่อไป บริเวณที่เกิดเหตุห่างจากท้ายรถราว 2 เมตร พบเสาไฟฟ้ามีร่องรอยถูกชนทำให้ส่วนช่วงบน ซึ่งสูงจากพื้นขึ้นไปประมาณ 3 เมตร หักโค่นลงมา ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ริมถนนใกล้กับเสาไฟฟ้าเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดครึ่งฟุตถูกชนขาดสองท่อน

"เมาเละ รอดตายเพื่อนดับ"


ขณะตรวจที่เกิดเหตุ พบนายจตุพล ระโหฐาน อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1148/69 ถนนนครไชยศรี แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ขับขี่ ไม่มีร่องรอยบาดแผลหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่มีกลิ่นสุราคละคลุ้ง จึงนำตัวส่งตรวจแอลกอฮอล์ พบว่ามีปริมาณสูงถึง 121 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ มากกว่ากฎหมายระบุไว้ไม่ให้เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นายจตุพลให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อตอน 2 ทุ่ม ไปงานเลี้ยงรุ่นพี่ที่โรงแรมวินเซอร์ ซอยสุขุมวิท 20 ออกมาตอน 3 ทุ่ม ไปเที่ยวต่อกับเพื่อนๆอีก 3-4 คน ที่ผับแห่งหนึ่งแถวคลองตัน จนเกือบตีหนึ่ง นายศิขพลผู้ตายซึ่งเป็นรุ่นน้องเรียนอยู่ชั้นปี 1 คณะเดียวกัน

และมีความสนิทสนมกันมาก ส่งข้อความให้ไปหาที่ร้านเบลอ ใกล้แยกพร้อมพงศ์ ถนนเพชรบุรี เป็นจังหวะที่ตนกำลังจะแยกกับเพื่อนกลับบ้านพอดี จึงแวะไปหานายศิขพลและนั่งอยู่ต่อจนร้านเลิก ขากลับก็ให้นายศิขพลและนายภูมินทร์ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ติดรถมาด้วย ใช้ความเร็วประมาณ 90 กม./ชม. ในช่วงที่กลับรถตรงเกาะกลางถนนใกล้ที่เกิดเหตุ รู้สึกว่าถนนเป็นเนินก่อนที่รถจะเสียหลักหมุนไปฟาดต้นไม้และเสาไฟฟ้าอย่างจังจนแหลกยับทั้งคัน หลังเกิดเหตุตนยังรู้สึกตัวรีบมุดออกมาทางช่องกระจกด้านหน้าที่แตก และโทรศัพท์แจ้งเหตุให้ตำรวจทราบ เบื้องต้นแจ้งข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและมีผู้ถึงแก่ความตาย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์