เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” รายงานว่า พ.ต.ท.พัฒนา กองช่าง พนักสอบสวน สภ.เมืองชุมพร
รับแจ้งเหตุพบถุงพลาสติก ภายในมีเลือด ชิ้นเนื้อ คล้ายรกเด็ก ถูกนำมาทิ้ง ในสวนปาล์ม ริมถนนสายวัดประเดิม-พละ หมู่ที่ 7ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรุดตรวจสอบพลที่เกิดเหตุริมคูน้ำในสวนปาล์ม ห่างจากถนนลาดยาง สายวัดประเดิม-พละ ประมาณ 5 เมตร พบถุงพลาสติกใสใบใหญ่ เมื่อเปิดออกดูพบ มีถุงพลาสติกใสใบเล็กๆ อีกจำนวน 5 ถุง ภายในถุงพลาสติกเล็กๆ แต่ละถุง บรรจุเลือดสดๆ พร้อมชื้นเนื้อ คล้ายรกเด็ก จำนวนกว่า 50 ชิ้นชาวบ้านพบถุงพลาสติกใบใหญ่ ภายในมีเลือดสดๆ พร้อมชิ้นเนื้อจำนวนมาก แพทย์ยืนยันคล้ายรกเด็ก คาดว่าหมอเถื่อนรับทำแท้งให้กับกลุ่มวัยรุ่นใจแตก แล้วนำมาทิ้งในสวนปาล์มริมถนน เพื่อทำลายหลักฐาน
จากการสอบสวนชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุทราบว่า เวลาประมาณเที่ยงเศษ พบเห็นหญิงชายวัยรุ่นคู่หนึ่ง
ขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสียี่ห้อและทะเบียน มาจอดบริเวณจุดเกิดเหตุ สักครู่ก็ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกไปอย่างรวดเร็ว ดูมีพิรุธ เมื่อชาวบ้านตามไปดู จึงพบว่า เป็นถุงพลาสติกภายในมีเลือดคล้ายเลือดมนุษย์ จึงแจ้งให้ตำรวจทราบ
จากการตรวจสอบและพิสูจน์ชิ้นเนื้อเบื้องต้น น.พ.วิบูลย์ ทองด้วง แพทย์เวร ร.พ.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
เปิดเผยว่า สิ่งที่บรรจุในถุงดังกล่าว น่าจะเป็นก้อนเลือดและรกเด็กที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือน ซึ่งคาดว่าหมอทำแท้งเถื่อนในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุ รับทำแท้งให้กับวัยรุ่นใจแตก ก่อนจะนำมาทิ้ง ซึ่งจะได้นำก้อนเลือดและชิ้นเนื้อคล้ายรกทั้งหมด ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง
น.พ.วิบูลย์ กล่าวต่อว่า การตรวจสอบของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถแยก DNA ของก้อนชิ้นเนื้อแต่ละชิ้นได้ ซึ่งสามารถยืนยันความชัดเจนที่แน่นอนได้ ดังนั้นในเบื้องต้น จึงยังไม่ขอสรุปว่า เป็นก้อนชิ้นเนื้ออะไรกันแน่
ด้าน พ.ต.ท.พัฒนา กล่าวว่า ในทางคดี หากพบว่าเป็นก้อนเนื้อและรกของทารกจริง ก็ไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในข้อหาฆ่าคนตายได้
เพราะก้อนเนื้อดังกล่าวยังไม่มีสภาพเป็นบุคคล แต่สามารถดำเนินคดี เอาผิดกับหมอทำแท้งเถื่อนได้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่า ก้อนเนื้อดังกล่าว เป็นของทารก ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป หากผลสรุปออกมาว่า เป็นชิ้นเนื้อและรกเด็ก