เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ห้องทำงานผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากร อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
นายประสาท และนางน้อย ยาสา ผู้ปกครองของ ด.ช.บอย (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2 ของโรงเรียนดังกล่าว เข้าพบนายชาญ อ่อนวงษ์ ผู้อำนวยโรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากร หลังเกิดเหตุลูกชายถูกนายจิรภัทร สาทวอล ครูพละและสุขศึกษา กระหน่ำเตะจนล้มนอนกองกับพื้นภายในโรงยิมของโรงเรียน หลังหมดคาบเรียนวิชาพละศึกษา ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ น้องๆ นักเรียน จนกระทั่งแม่บ้านที่ทำความสะอาดต้องวิ่งเข้าห้าม เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังผู้ปกครองทราบเรื่องจึงพาลูกชายที่มีอาการแขนซ้ายบวมแดง ไปเข้ารักษาที่โรงพยาบาลลับแล แพทย์ให้ยาทาฟกช้ำและวินิจฉัยที่แขนซ้ายมีรอยฟกช้ำ จากการถูกทำร้ายร่างกาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาญ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการพูดคุยชี้แจ้งข้อเท็จจริงกับผู้ปกครองของเด็ก
จากนั้นได้เรียก นายจิรภัทร ที่นั่งรออยู่ห้องพักครูกับ นางประเทือง สารทวอล ผู้เป็นแม่เข้าพบ เมื่อไปถึงโต๊ะทำงานของผู้อำนวยการ ทั้งคู่นั่งลุกเข่า ก้มหน้า พร้อมยกมือไหว้ขอโทษพร้อมทั้งน้ำตา เสียใจกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป แต่บรรยากาศตึงเครียด เมื่อนายประสาท บิดา ด.ช.บอย เมื่อเห็นหน้าครูพละที่ทำร้ายลูกชาย ถึงกับเก็บอารมณ์ไม่ได้ กล่าวด้วยเสียงดุดันว่า "ผมเลี้ยงลูกชาย หากไม่ทำผิดไม่เคยลงโทษด้วยการทุบตี ดุด่า ทำไมครูถึงเตะลูกชายผม ครั้งเดียวไม่ว่า กระหน่ำเตะตั้งหลายครั้ง หากไม่มีคนเข้าไปห้ามลูกชายคงเจ็บหนักกว่านี้ ถ้าลูกชายทำผิด แล้วครูตีจะไม่ถือโทษ"
นายจิรภัทร กล่าวทั้งน้ำตา พร้อมยกมือไหว้ขอโทษว่า ตนขอโทษ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อไปจะไม่กระทำอีก
หลังทำร้ายลูกศิษย์กลับบ้านพักไม่สบายใจ ตนเพิ่งสอบรรจุเป็นครูใหม่และสอนได้ 1 เดือน เป็นช่วงระยะที่ต้องปรับตัวหลายเรื่องทั้งที่อยู่ การกิน ที่สำคัญ คือ ภาษาที่เหน่อเพราะเป็นชาว จ.อ่างทอง จึงกลายเป็นปมด้อยที่ถูกเด็กนำมาล้อเลียนตลอดเวลา จนบางครั้งไม่อยากมาสอน แต่มีแม่คอยเป็นกำลังใจและย้ายจาก จ.อ่างทอง มาอยู่และคอยดูแล
"ผมกำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก เหลือเพียงแม่ที่ชราแล้วคอยดูแล อาจด้วยอายุ 26 ปี เมื่อถูกเด็กล้อบ่อยครั้ง จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ ระงับความโกรธไม่ได้ โมโห และทำในสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งลงไป ต่อไปผมจะปรับตัว และยึดมั่นความเป็นครูให้มากกว่านี้ ผมยอมรับผิด"นายจิรภัทร กล่าวด้วยน้ำตา
นายชาญ กล่าวว่า โรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากรเป็นโรงเรียนเก่าแก่
ตั้งมากว่า 100 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ หรือในการเสื่อมเสีย ตนในฐานะผู้อำนวยการ ยอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะกำกับดูแลบุคลากรให้ยึดมั่นในความเป็นครูมากยิ่งขึ้น สำหรับครูพละรายดังกล่าวนอกจากจะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบทางวินัยแล้ว ยังจะให้ย้ายจากสอน ม.2 มาสอน ป.6 ซึ่งผู้ปกครองก็เข้าใจและยอมให้อภัยในเรื่องดังกล่าว ส่วน ด.ช.บอย ยังคงมาเรียนมาปกติและอาการบวมฟกช้ำดีขึ้น แต่ให้ครูพยาบาลคอยดูแล
ด้านนางน้อย มารดาของด.ช.บอย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ครอบครัวยอมยกโทษและให้อภัยคุณครูที่ทำร้ายร่างกายลูกชาย เพราะเห็นแก่หัวอกความเป็นแม่ของนางประเทือง มารดาของครูพละ