ตำรวจสืบ 4 โชว์ฟอร์ม แกะรอยล่าโชเฟอร์แท็กซี่ก่อเหตุชิงทอง 4 กก.ค่า 6 ล้าน

ตำรวจสืบ 4 โชว์ฟอร์ม แกะรอยล่าโชเฟอร์แท็กซี่ก่อเหตุชิงทอง 4 กก.ค่า 6 ล้าน

วานนี้ (2 ก.ค.) เวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.)

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 แถลงข่าวกรณี พ.ต.อ.อุทัย กวินเดชาธร ผกก.สส.บก.น.4 ร่วมกับ พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว นำกำลังเข้าจับกุมนายพิชัย บุญช่วย อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 282/17 ซอยลาดพร้าว 87 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ตามหมายจับศาลอาญาที่ 985/2555 ลงวันที่ 29 มิ.ย.55 ข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายกาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม พร้อมของกลางทองคำรูปพรรณ อาทิ สร้อยคอ เลสข้อมือ หนักประมาณ 300 บาท น้ำหนักรวม 4.5 กก. มูลค่า 6,856,694 บาท กระเป๋าเดินทางยี่ห้อโปโลที่ใช้ใส่ทองคำสภาพถูกหั่นเป็นชิ้นๆ และกุญแจรถแท็กซี่ โดยจับกุมได้ที่บริเวณซอยหน้าหอพักหญิง สามสุพร เลขที่ 495 หมู่ 5 ถนนศรีเชียงใหม่-แม่โจ้ ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.30 น. นายพิชัย บุญช่วย โชเฟอร์แท็กซี่

ได้ก่อเหตุใช้ของแข็งทุบที่ใบหน้าของนางเฟื่อง สายมูล 50 ปี ลูกจ้างร้านทอง อึ้ง เฮง หลี อยู่ในห้างแม็คโคร สาขาบางกะปิ ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณกลางซอยลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม.ก่อนจะชิงทรัพย์ทองคำรูปพรรณหนักรวม 4 กิโลกรัม หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถแท็กซี่โตโยต้าสีชมพู ทะเบียน 4047 กรุงเทพมหานคร จอดทิ้งไว้อยู่ในซอยลาดพร้าว 132 และตรวจสอบพบว่าคนร้ายขนทองคำหลายล้านบาทหลบหนีขึ้นภาคเหนือ ชุดสืบสวนกก.สส.บก.น. 4 ได้ติดตามเบาะแสคนร้ายจากกระเป๋าใส่ทองคำ ซึ่งเจ้าของร้านหัวไวติดจีพีเอสเอาไว้ กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้ที่แถวบ้านญาติ จ.เชียงใหม่ พร้อมยึดทองคำส่งคืนเจ้าของได้อย่างครบถ้วน
 

ด้าน พล.ต.ต.ชาญ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายพิชัย รับสารภาพว่า คบหาเป็นแฟนกันกับนางเฟื่องประมาณ 5-6 เดือนแล้ว
 
ก่อนเกิดเหตุนางเฟื่องได้ว่าจ้างนายพิชัยให้ขับรถแท็กซี่ไปส่งที่ จ.นครราชสีมา เพื่อนำทองคำไปเปลี่ยนก่อนนำกลับมาส่งที่ร้านทอง ระหว่างทางนายพิชัยได้ชกต่อยนางเฟื่องจนได้รับบาดเจ็บกระทั่ง และขนทองคำ 4.5 กก. หลบหนีไปโดยทิ้งรถแท็กซี่ไว้ที่ซอยลาดพร้าว 130 ก่อนจะหลบไปซ่อนตัวอยู่แถวบ้านญาติ ที่จ.เชียงใหม่ ก่อนหน้านั้นนางเฟื่อง ก็เคยว่าจ้างนายพิชัย อยู่หลายครั้ง นายพิชัยจึงน่าจะเตรียมวางแผนมาก่อน เนื่องจากมีการเปลี่ยนที่อยู่ และบัตรประชาชน ก่อนล่วงหน้าหลายเดือน ล่าสุดเดือนพ.ค.นี้ ก็เปลี่ยนบัตรประชาชนใหม่ย้ายที่อยู่อีก นอกจากนี้เวลาผู้ต้องหาเข้าพักตามที่พักต่างๆ จะกรอกประวัติว่า เป็นโสดบ้าง ภรรยาตายบ้าง เพื่อเป็นการอำพรางตัวไปด้วย
 

ด้านนายพิชัย ให้การรับสารภาพว่า ไม่ได้วางแผนอะไรไว้ล่วงหน้า และยังไม่รู้ว่าจะเอาทองไปขายที่ไหน
 
ส่วนเชือกที่อยู่ในรถแท็กซี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ตนไม่ได้มีหนี้สินหรือเดือนร้อนเรื่องเงิน แต่ลงมือกระทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบมากกว่า โดยลงมือทำเพียงแค่คนเดียว และสำนึกผิดทุกอย่างที่ทำลงไป
 

ด้านนางเพ็ญศรี จารุกำเนิดกนก อายุ 60 ปี เจ้าของร้านทอง ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกล่าวด้วยว่า
 
รู้สึกดีใจที่ติดตามจับกุมคนร้ายได้ และได้ทองคำคืนครบถ้วน นางเพ็ญศรี ได้มอบช่อดอกไม้และเงินสดจำนวน 1 แสนบาท ให้ชุดจับกุม เพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมตำรวจ นอกจากนี้ พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ยังมอบเงินสบทบอีก 1 แสนบาทให้กับชุดจับกุมด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์