เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.ต.สมมาตร สังข์ทอง สารวัตรเวร สภ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
รับแจ้งเกิดเหตุปล้นร้านทองงามศิลป์ ตั้งอยู่เลขที่ 152/9 ม.4 ถนนสุขาภิบาล เขตเทศบาลตำบลทับสะแก อ.ทับสะแก จึงรุดตรวจสอบ พร้อมด้วยพล.ต.ต.วิเชียร ตันตะวิริยะ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ.พิศุทธิ์ ศุกระศร ผกก.สภ.ทับสะแก และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบประชาชนยืนมุงดูบริเวณหน้าร้านจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงกันผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่
แล้วตรวจสอบภายในร้านพบประตูกระจกหน้าร้านแตกกระจายเกลื่อนพื้น สิ่งของถูกรื้อกระจัดกระจาย ใกล้กันพบปลอกกระสุนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 7 ปลอก ปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 อีก 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ ยังพบทองรูปพรรณรวม 4 ถาด หนักประมาณ 250 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้านบาทสูญหายไป
สอบสวนนางจิฎากาญจน์ เพาะพูนธนากิตติ เจ้าของร้านทองให้การว่า
ก่อนเกิดเหตุมีคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีบี 400 สีดำแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดเยื้องกับหน้าร้าน แล้วบุกเข้ามาภายในร้าน พร้อมใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้า น.ส.ตูตา สมศรี อายุ 34 ปี คนรับใช้ที่ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ จากนั้นหนึ่งในคนร้ายที่ใส่เสื้อแจ๊กเกตสีดำ สวมหมวกกันน็อกปิดใบหน้า สวมกางเกงยีนส์ขายาว ถุงมือสีดำ ชักอาวุธปืนคาร์บินออกมาคุมเชิง ส่วนคนร้ายอีกคนชักอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดแบบพับฐานออกมาและกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ จากนั้นใช้ด้ามปืนทุบตู้โชว์กระจกแล้วกวาดทองรูปพรรณรวม 4 ถาด ซึ่งมีทองหนักประมาณ 250 บาท ใส่กระเป๋าสะพาย โดยคนร้ายใช้เวลาลงมือไม่ถึง 25 วินาที
นางจิฎากาญจน์กล่าวอีกว่า จังหวะที่คนร้ายกำลังเตรียมหลบหนี นายวีรพงษ์ อิ่มชู อายุ 35 ปี
หลานชายที่เปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือบริเวณใกล้กันและเห็นเหตุการณ์ จึงใช้อาวุธปืนพกแบบออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่คนร้าย 6 นัด ทำให้คนร้ายใช้ปืนคาร์บินยิงสวนกลับมา 1 นัด ถูกกระจกร้านแตกกระจาย และเมื่อคนร้ายจะยิงต่อสู้ปรากฏว่าปืนเกิดขัดลำกล้อง ขณะเดียวกันปืนของนายวีรพงษ์ก็เกิดขัดลำเช่นกัน ทำให้คนร้ายที่ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่กระจกร้านทองอีก 1 นัด เพื่อหวังเปิดเส้นทางหลบหนี ก่อนวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้านและหลบหนีออกไปทางถนนเพชรเกษม มุ่งหน้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
ด้านพล.ต.ต.วิเชียรกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของธนาคารกรุงเทพ
ที่ตั้งอยู่ใกล้กับร้านทองพบ 2 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาดูลาดเลาก่อนลงมือก่อเหตุ และมีพยานจำหมวกกันน็อกที่คนร้ายสวมใส่ได้ ล่าสุดสั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่ตั้งด่านสกัดตั้งแต่ อ.บางสะพาน ถึง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีพยานระบุว่าคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมาทาง ต.ห้วยยาง มุ่งหน้าทางทิศเหนือ แต่ชุดติดตามที่ไล่ล่าไม่สามารถสกัดจับได้ เพราะคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ความเร็วสูง นอกจากนี้ ยังตั้งชุดเฉพาะกิจออกติดตามจับกุม รวมไปถึงให้ตรวจสอบตามโรงพยาบาลต่างๆ ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกอาวุธปืนยิงเข้าไปรับการรักษาตัวหรือไม่ เพราะคาดว่าคนร้ายอาจได้รับบาดเจ็บจากการถูกญาติของเจ้าของร้านทองยิงต่อสู้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านทองพบว่า กระสุนปืนของนายวีรพงษ์ได้ยิงถูกคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนคาร์บิน 1 นัด บริเวณหน้าท้อง แต่คนร้ายไม่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งคาดว่า 2 คนร้ายน่าจะสวมเสื้อเกราะกันกระสุนด้วย
ทั้งนี้หากใครแจ้งเบาะแสจนกระทั้งนำจับได้ และได้ทองคืนมาไม่ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะให้เงินค่านำจับ 1 ล้านบาท แต่หากไม่ถึงก็จะลดหลั่งไปตามเปอร์เซ็นต์