ลุยสอบขยายผลทลายเอเยนต์ใหญ่ค้าอาวุธสงคราม

ลุยสอบขยายผลทลายเอเยนต์ใหญ่ค้าอาวุธสงคราม


จากกรณีตำรวจบุกตรวจค้นจับกุมนายบุญเริง หรือเขียว ระวัง อายุ 38 ปี อดีตผู้ต้องขังเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช

อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ และนายวัฒนา หรือจุก ระวัง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พบอาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 , ปืนอาร์ก้า , ปืนกล และระเบิดขว้าง รวมเกือบ 10 รายการพร้อมกระสุนขนาดต่างๆ กว่า 1,000 นัด รวมทั้งเครื่องบิน (ฮ.) บังคับ 6 ใบพัดที่มีไว้สำหรับการส่งยาเสพติดและของผิดกฎหมายเข้าออกในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วน้น

ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.สุดใจ ญาณรัตน์ รอง ผบช.ภ.8 เผยว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนขยายผลทั้งในเรื่องยาเสพติดและแหล่งจำหน่ายอาวุธสงครามที่เชื่อมโยงกับเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช โดยเมื่อตรวจสอบยาเสพติดของกลางซึ่งเป็นยาบ้าสีขาวจำนวน 22 เม็ด ห่อด้วยกระดาษฟลอยด์อย่างดี จากการสอบสวนปากคำนายบุญเริงฯ หนึ่งในผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นยาบ้าชนิดใหม่ที่ยังไม่มีขายในวงการยาเสพติดอย่างแพร่หลายมากนัก เป็นยาบ้าสูตรพิเศษมีราคาแพงกว่ายาบ้าปกติประมาณ 1-2 เท่าตัว การจับกุมและยึดยาบาสูตรพิเศษ 22 เม็ดในครั้งนี้ถือว่าเป็นการจับกุมยาบ้าชนิดนี้ครั้งแรกในจังหวัดนครศรีธรรมราชและภาคใต้

“นอกจากนี้ยังตรวจสอบอาวุธสงครามทั้งหมด พบว่าปืนเอ็ม 16 หนึ่งในสองกระบอกมีตราโล่ระบุอยู่ แต่ตัวเลขถูกลบจนเลอะเลือนไปแล้ว เชื่อว่าเป็นของทางราชการ ซึ่งจะตรวจสอบอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกระบอกอื่นๆ ทั้งเอ็ม 16 ปืนอาร์ก้า  ปืนกล และลูกระเบิด 2 ลูก ตำรวจจะตรวจสอบหาแหล่งที่มาเช่นกัน” พล.ต.ต.สุดใจ ระบุ

สำหรับการค้าอาวุธสงครามพบว่ามีนายสุรศักดิ์ ต้องโทษจำคุกอยู่แดน 6 เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เป็นเอเย่นต์ใหญ่ และนายบุญเริง จะโทรศัพท์สั่งอาวุธสงครามเพื่อนำมาขายต่อให้กับลูกค้าอีกทอดหนึ่ง นับเป็นอันตรายอย่างมากที่อาวุธสงครามจำนวนมากตกอยู่ในมือของกลุ่มอาชญากรแผ่นดิน โดยเฉพาะขบวนการค้ายาเสพติด ที่อาจจะมีการนำออกมาก่อเหตุส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินรวมทั้งภาพลักษณ์ของความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นอย่างมาก

ด้าน พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรองสารวัตรจนถึงรองผู้บังคับการ เพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางในการสอบสวนสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนที่ผิดกฎหมายอย่างเข็มงวดกวดขัน พร้อมติดตามยึดคืนอาวุธสงครามกลับมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้  และขอความร่วมมือจากประชาชนที่ทราบเบาะแสผู้ที่ครอบครองหรือแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนสงคราม เพื่อที่ตำรวจจะได้เข้าไปตรวจสอบจับกุมตรวจยึดต่อไป ซึ่งผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถจับกุมตรวจยึดอาวุธปืนสงครามได้ทางตำรวจภูธรนครศรีธรรมราชจะพิจารณามอบเงินรางวัลนำจับให้ด้วย.

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์