ตร.ชี้ปรับ500 โชว์เต้าวาดรูป

ตร.ชี้น้องปอนด์ นู้ดกตัญญูโทษปรับแค่ 500 บาท ฐานอนาจาร
 
สั่งสน.ท้องที่สอบพยานทั้งกรรมการ คนดู ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาเปรียบเทียบปรับ เผยเสี่ยตา ปัญญา-เวิร์คพอยท์ หากเห็นแล้วไม่ยับยั้งห้ามปราม ก็เข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดด้วย ครอบครัวน้องปอนด์ที่แพร่วุ่นหนัก หลังถูกชาวบ้านประณามไม่เหมาะสม น้องสาว ม.4 ถึงขั้นเครียดจัดไม่ยอมไปเรียน ด้านแม่วอนสังคมเห็นใจ สภาวัฒน ธรรมแพร่ชี้ทำเพื่อครอบครัว สะท้อนให้เห็นภาพสังคมไทยชัดเจน ช่อง 3 ยอมจ่าย 5 แสนตามที่กสทช.ปรับ

จากกรณีรายการไทยแลนด์ ก็อต ทาเลนต์ ซีซั่น 2 ของบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทน เมนท์ จำกัด (มหาชน)
 
เผยแพร่ภาพผู้สมัครแข่งขันแสดงความสามารถพิเศษ ก่อนน.ส.ดวงใจ จันทร์สระน้อย หรือปอนด์ วัย 23 ปี ขึ้นไปถอดเสื้อและชุดชั้นในบนเวที พร้อมกับใช้หน้าอกวาดภาพลงบนผืนผ้าใบ ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ขณะที่นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.เวิร์คพอยท์ฯ ออกมารับอาจมีเอเยนต์จ่ายเงิน 1 หมื่นบาท จ้างให้นางแบบนู้ดโชว์เปลือยเต้าวาดภาพบนเวที แต่ยืนยันไม่ใช่เจตนาของทางรายการเพื่อกระชากเรตติ้ง

นอกจากนี้กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
 
มีมติปรับเงินช่อง 3 เป็นเงิน 5 แสนบาท เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรา 37 เข้าข่ายลักษณะลามกอนาจาร ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 และสั่งให้ดูแลห้ามให้มีการเผยแพร่ภาพที่เข้าข่ายลามกอนาจาร ส่วนแม่ของน้องปอนด์เผยที่บ้านยากจน โดยน้องปอนด์ทำงานส่งเสียพ่อที่เจ็บป่วย และลูกวัย 6 เดือน ตลอดจนน้องสาวที่ยังเรียนหนังสืออยู่ทั้งหมด โดยไม่ทราบว่าทำงานอะไร และขอให้ทุกคนเห็นใจลูกสาวด้วย ตามที่ข่าวสดนำเสนอไปแล้วนั้น

วันที่ 21 มิ.ย. นางอัญญาอร พานิชพึ่งรัถ ประธานเครือข่ายครอบครัวเฝ้าระวังและสร้างสรรค์สื่อ กล่าวว่า พอใจในมติของกสทช. เนื่องจากเป็นประเด็นที่กระทบต่อสังคมในวงกว้าง ผลการตัดสินเช่นนี้ทำให้เห็นได้ว่า กสทช. ยังเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

ด้านนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย รองกรรมการผู้จัดการและผู้จัดการฝ่ายผลิตรายการ ของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวว่า
 
คง จะต้องไปเสียค่าปรับตามที่ทาง กสทช.แจ้งมา ทั้งที่ผ่านมาในชีวิตการทำงานยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน เราเป็นเด็กดีมาตลอด จึงยังไม่รู้ว่าครั้งนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะตอนนี้ยุ่งเรื่องทำผังรายการและอื่นๆ จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่คิดว่าเร็วๆ นี้น่าจะได้คุยกันว่าจะทำอย่างไร

ที่บช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. เผยว่า สั่งการให้บก.น.5 และสน. ทองหล่อ

ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเผยแพร่ภาพดังกล่าว รวมทั้งหาสถานที่แพร่ภาพ หากเป็นการโชว์เปลือยจริงก็จะเรียกตัวน.ส.ดวงใจมาดำเนินคดี ตามป.อาญา มาตรา 388 ข้อหากระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือการกระทำลามกอย่างอื่น ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ซึ่งตำรวจดำเนินคดีได้เลย โดยไม่ต้องมีใครแจ้งความ เพราะถือว่าเป็นอาญาแผ่นดิน นอกจากนี้จะต้องดูไปอีกว่าบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ มีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ เพราะหากเห็นเทปที่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ยับยั้งแก้ไข ก็เข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิด ซึ่งรวมถึงตัวนายปัญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท หากข้อเท็จจริงปรากฏว่าเห็นเทปมาก่อน แต่ไม่ยับยั้งก็มีความผิดเช่นกัน

พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ส่วนที่มีข้อสังเกตว่ามีการเตรียมอุปกรณ์ผ้าขนหนูไว้ก่อน

ซึ่งแสดงว่ารู้ว่าจะมีโชว์เช่นนั้น ไม่งั้นคงเตรียมไว้ก่อนไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ทั้งสอบปากคำกรรมการทั้ง 3 ที่เห็นเหตุการณ์ใกล้ชิด เชื่อว่าใช้เวลาไม่นานจะออกหมายเรียกน.ส.ดวงใจมาแจ้งข้อหา และเปรียบเทียบปรับได้

นางวิสา เบญจะมโน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานอนุกรรม การด้านเด็ก สตรี และความเสมอภาค กล่าวว่า
 
คนที่ได้รับผลกระทบทางสิทธิ์มี 2 ฝ่าย ฝ่าย แรกคือ น.ส.ดวงใจ ที่รับผลกระทบจากการ วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งหากรับจ้างมาจริงก็อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถือว่าน่าสงสาร อีกฝ่ายคือเด็กที่ไม่มีวิจารณญาณพอ อาจเห็นว่าเป็นเรื่องดี เป็นศิลปะ แล้วนำไปสู่การเลียนแบบได้

ที่ จ.แพร่ นายเอกชัย วงศ์วรกุล ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ และนางแสงพลอย มุ้งทอง นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่

แถลงจุดยืนองค์กรว่า 1.การแสดงภาพอนาจารออกโทรทัศน์เป็นการทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทย 2.การแสดง ออกของน้องปอนด์ที่เกิดขึ้นจากความจำเป็นหาเลี้ยงครอบครัวสะท้อนภาพทางสังคมและคุณภาพชีวิตของคนไทย ซึ่งบางคนต้องต่อสู้โดยลำพังจนทำในสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร และ 3.เห็นว่าการเสนอข่าวของสื่อต่างชาติมีมุมมองไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง จึงอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำกรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก ส่วนกรณีการนำเสนอของสื่อที่ล่วงละเมิดก็ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย และออกมาตรการทางสังคมโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับสถานการณ์ที่บ้านพักของน้องปอนด์ ที่ จ.แพร่

หลังเป็นข่าวครึกโครมทำให้เกิดผลกระทบกับครอบครัวแล้ว โดยน้องสาวของน้องปอนด์ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4 และเป็นนักเรียนที่มีผลการเรียนดีระดับ 3-3.5 ไม่กล้าไปโรงเรียน เพราะเพื่อนและครูต่างสอบถามกันมา ทำให้เกิดอาการเครียด และล้มป่วยลงแล้ว โดยผอ.โรงเรียนที่น้องสาว น.ส.ดวงใจเรียนอยู่มีคำสั่งทำความเข้าใจกับเพื่อนนักเรียนและครูให้ระมัดระวังในการแสดงออกเรื่องดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้ ญาติของน้องปอนด์รายหนึ่ง เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำร้ายครอบครัวมาก มีชาวบ้านที่รู้จักออกมาต่อว่า นินทาว่าทำเรื่องไม่เหมาะสม ญาติๆ ต่างต้องมาทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง จึงขอให้สังคมยุติทำร้ายเด็กผู้หญิงอีก

ด้านนางไฮ จันทร์สระน้อย แม่ของน้องปอนด์ เผยว่า

ขอให้สังคมเลิกประณามลูกสาวตนได้แล้ว และขอให้ครอบครัวของตนอยู่ตามปกติแบบเดิม ไม่อยากให้เดือดร้อนวุ่นวายมากไปกว่านี้อีก เพราะทุกวันนี้สังคมจับจ้องจนไม่กล้าไปไหนแล้ว และเป็นไปได้ก็ไม่ต้องแวะเวียนมา ขอให้อยู่อย่างสงบตามปกติ

นายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล นายอำเภอลอง จ.แพร่ กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหาข้อมูลเชิงลึก
 
เพื่อเข้าไปดูแลครอบครัวของน้องปอนด์แล้ว เพราะตามข้อมูลที่ระบุ ว่าพ่อป่วยเป็นอัมพาต ก็ต้องสอบถามทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ว่าเข้าให้การช่วยเหลือหรือยัง รวมทั้งขึ้นทะเบียนคนพิการไว้หรือไม่ รวมทั้งการให้ทุนการศึกษากับน้องสาวน้องปอนด์ และการดูแลเด็กเล็กอย่างลูกสาวน้องปอนด์ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งในวันที่ 25 มิ.ย.นี้จะลงพื้นที่พร้อมนักสังคมสงเคราะห์ สภาวัฒนธรรม และกาชาด เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเป็นอยู่