ตร.สั่งล่าโจรแสบ บุกเดี่ยวควงซามูไรปล้นเซเว่นฯ ที่อ.สันทราย เชียงใหม่
พร้อมฉกบุหรี่ยี่ห้อดังไปด้วย 5 ซอง ตรวจสอบวงจรปิดเชื่อคนร้ายเป็นคนเดียวกับที่ก่อเหตุปล้นเซเว่นฯ ที่อ.แม่ริม เผยรูปร่างลักษณะ การแต่งกายเหมือนกัน แถมก่อนจากต้องหยิบบุหรี่ติดมือไปด้วย เชื่อมีเพื่อนร่วมแก๊งคอยขี่จยย.พามาปล้น สั่งตรึงกำลังเฝ้า เชื่อต้องลงมือก่อเหตุอีก
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 19 มิ.ย พ.ต.ท. เศรษฐชัย ธรรมน้อย พงส. สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่
รับแจ้งมีเหตุคนร้ายควงดาบซามูไร บุกเดี่ยวเข้าชิงทรัพย์ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ย่านถนนวงแหวนรอบ 3 ใกล้สี่แยกลิขิตชีวัน หมู่ 6 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุ พบพนักงานภายในร้าน 3 คนประกอบด้วย นายธรรมนูญ การะแปง น.ส.หนึ่งฤทัย ใคร้ก้ำ และน.ส.จุฑามาศ จำปา
ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยท่าทางหวาดกลัว สอบสวนทราบว่าขณะที่ทำงานอยู่ภายในร้าน นายธรรมนูญเดินเข้าห้องน้ำ ส่วนพนักงานหญิงทั้ง 2 กำลังเช็กสต๊อก โดยลืมล็อกประตูทางเข้า ซึ่งปกติจะต้องล็อกจนถึงเที่ยงคืน โดยขณะนั้นมีคนร้ายลักษณะผอมสูง สวมผ้าคลุมศีรษะสีดำ สวมหมวกกันน็อกสีดำอีกชั้น ใส่เสื้อสีครีม กางเกงสีดำ ใช้อาวุธเป็นดาบซามูไร เข้ามาในร้าน พร้อมตะโกนบอกพนักงานในร้านทั้ง 3 ว่า ให้เอาเงินมา นี่คือการปล้น พนักงานจึงยื่นเงินในช่องเก็บเงินให้ไป ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 พันบาท โดยก่อนออกจากร้าน คนร้ายตะโกนว่าอย่าติดตามมา และห้ามมองดู ทั้งนี้คนร้ายสั่งให้พนักงานหยิบบุหรี่ ยี่ห้อแอลเอ็มส่งให้ 5 ซอง ก่อนอาศัยความมืดหลบหายลอยนวล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งการผ่านวิทยุสื่อสาร ให้สกัดจับคนร้าย แต่ไร้วี่แวว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายน่าจะเป็นรายเดียวกัน ที่ก่อเหตุใช้ดาบซามูไร ปล้นร้านเซเว่นฯ ในเขตท้องที่สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เพราะรูปร่าง เครื่องแต่งกาย เหมือนกันทุกอย่าง จึงประสานกับสภ.แม่ปิง เพื่อตรวจสอบตามหาคนร้ายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะมา 2 คน โดยอีกคนน่าจะจอดจยย.ไว้ฝั่งตรงข้าม
ก่อนที่คนร้ายจะลงมือบุกเดี่ยวควงดาบซามูไร ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งในหลายพื้นที่ โดยมีสัญลักษณ์ใช้ดาบซามูไร เป็นอาวุธ และทุกครั้งจะต้องเอาบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็มติดมือไปด้วยทุกครั้ง แต่ไม่ยอมเข้าใกล้บริเวณแคชเชียร์ เพราะอาจกลัวถูกล็อกตัว ทั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายจะต้องกลับมาก่อเหตุอีกแน่นอน จึงสั่งวางกำลังติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้