โจรใต้บึ้มอส.ชุดคุ้มครองครูที่ยะหริ่ง จ.ปัตตานีบาดเจ็บ 3 นาย ส่วนพ่อค้าดับสยอง 1 ศพ บึ้มรถฮัมวี่ทหารขณะไปรับเสบียงที่ฐานปฏิบัติการสุไหงปาดี โชคดีไม่มีทหารบาดเจ็บ ระเบิดอีกร้านข้าวแกงเมืองนราธิวาสบาดเจ็บ 6 คน ส่วนที่รือเสาะกลุ่มโจรแบกอาวุธสงครามยิงถล่มขบวนรถไฟขณะจอดอยู่ที่สถานีบ้านสโลว์บูกิตยือแร แรงกระสุนทำให้น้ำมันรั่วเป็นทางยาว แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บ นายกฯมาเลย์เดินทางมาเยือนไทย 11-13 ก.พ.นี้ พร้อมเข้าพบ"แอ้ด"แก้ปัญหา 3 จว.ใต้
ใต้ยิงถล่มรถไฟบึ้มชุดคุ้มครองครู
ร.ต.ต.เด่นพงษ์ รับแจ้งเหตุระเบิดที่ริมถนนสายบ้านโคกสยา
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 31 ม.ค. ร.ต.ต.เด่นพงษ์ เต็มยอด ร้อยเวรสภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดที่ริมถนนสายบ้านโคกสยา-บ้านปอเนาะ หมู่ 5 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปยังที่เกิดเหตุพบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิด กว้างประมาณ 1 เมตร และลึก 30 เซนติเมตร
พบเศษกล่องเหล็ก เหล็กเส้นตัด แบตเตอรี่ เชื้อปะทุ สายรีโมตคอนโทรล คราบน้ำมัน และปลอกกระสุนปืน ห่างจากจุดระเบิดไปประมาณ 5 เมตร พบรถฮัมวี่ของทหารชุดร้อย ร.6011 ฉก.39 จอดอยู่แต่ไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีทหารบาดเจ็บ
สอบสวนทราบว่า
ขณะที่รถฮัมวี่มีทหารนั่งมาในรถ 5 นาย กลับจากไปรับเสบียงที่ฐานฉก.39 บ้านบาโงฮูมอ หมู่ 5 ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จะมุ่งหน้าไปยังฐานที่บ้านปอเนาะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดด้วยรีโมตคอนโทรลถล่มใส่ ก่อนจะหลบหนีไป แต่ไม่มีทหารบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ต่อมาเวลา 12.05 น. ร.ต.ท.มนูศักดิ์ ปาละมี ร้อยเวรสภ.อ.เมือง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุระเบิดที่ร้านขายข้าวแกง ไม่มีเลขที่ อยู่ในซอยอุดลตานนท์ 5 เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.อ.เมือง นราธิวาส นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร
และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปยังที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกว้าง 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต ที่ใต้ต้นมะขามหลังร้าน โต๊ะ เก้าอี้ จานข้าวแตกกระจายเกลื่อน พบชิ้นส่วนระเบิดเป็นเศษโทรศัพท์มือถือ เหล็กแผ่น ปุ๋ยยูเรีย เหล็กตัดสั้น เชื้อปะทุ ในรัศมี 15 เมตร
จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บ 6 ราย
ประกอบด้วย นายธีระพงส์ แดงสกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 198 หมู่ 7 ต.ลำภู อ.เมือง นราธิวาส เป็นลูกจ้างของกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.)
ถูกสะเก็ดระเบิดที่กลางหลัง บาดเจ็บสาหัส, นายภาสกร นินกระวัตร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พนักงานราชการศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.นราธิวาส, น.ส.ช่อฟ้า แซ่กั้ว อายุ 17 ปี อยู่บ้านเดียวกันกับนายภาสกร, นายไพบูลย์ ไหมนวล อายุ 75 ปี พ่อเจ้าของร้านข้าวแกง, นางเหิม ไหมนวล อายุ 74 ปี ภรรยาของนายไพบูลย์, และนายมาโนช เอียดน้อย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 126/15 หมู่ 4 ต.โคกเคียน อ.เมือง นราธิวาส เป็นดีเจ.รายการวิทยุของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9
จึงลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งร.พ.นราธิวาสราชนครินทร์
สอบสวนทราบว่า ร้านข้าวแกงดังกล่าวชื่อกอไผ่
เป็นของนางวราภรณ์ ไหมนวล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ซอยดุลตานนท์ 7 เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าทยอยเข้ามากินข้าวแกง ระหว่างนั้นเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว คาดว่าคนร้ายน่าจะนำระเบิดมาฝังไว้ในตอนกลางคืน เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่
เวลา 17.15 น. ร.ต.ต.วรพงษ์ กล่อมสกุล ร้อยเวรสภ.อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่รถไฟขบวนที่ 454 สายสุไหงโก-ลก-ยะลา ที่บริเวณทางรถไฟก่อนถึงสถานีย่อยบ้านสโลว์บูกิตยือแร หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ
รุดไปที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟจอดอยู่ที่สถานีย่อย ที่กระจกหน้าข้างห้องเครื่อง และถังน้ำมันมีรอยถูกกระสุนอาวุธปืนสงคราม 4 นัด น้ำมันรั่วไหลเป็นทางยาว และที่ตู้โดยสารที่ 1 และ 3 ยังมีรอยกระสุนปืนอีกกว่า 10 นัด แต่ไม่มีผู้โดยสารบาดเจ็บ สอบสวนทราบว่า
ขณะที่ขบวนรถไฟกำลังแล่นจะถึงที่สถานีบ้านสโลว์บูกิตยือแร มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแอบซุ่มอยู่ 2 ข้างทางในป่า ใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กว่า 10 นัด จนขบวนรถไฟได้รับความเสียหายดังกล่าว สันนิษฐานในเบื้องต้นคาดเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่
ร.ต.ต.เกษมสันต์ รับแจ้งเหตุระเบิดที่ป้อมยามบริษัท
ด้าน จ.ยะลา เวลา 01.10 น. ร.ต.ต.เกษมสันต์ จิตร์สว่างเนตร ร้อยเวรสภ.อ.เมือง ยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่ป้อมยามบริษัท พรเกษมวัสดุก่อสร้าง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 46 หมู่ 1 ต.ยุโป อ.เมือง ยะลา รุดไปที่เกิดเหตุพบศพนายดอเลาะ ปูมูลูกูจิ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/1 หมู่ 6 ต.ยุโป อ.เมือง ยะลา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท
ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สอบสวนนายดอเลาะให้การว่า ขณะที่เฝ้าเวรยามที่หน้าบริษัท มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนปาระเบิดใส่ป้อมยาม จึงกระโดดหนีทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สันนิษฐานในเบื้องต้นคาดเป็นเป็นฝีมือกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่
ต่อมาเวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.กาบัง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันที่ถนนทางหลวงสายชนบทบ้านสี่สิบ หมู่ .5 ต.บาละ อ.กาบัง รุดไปที่เกิดเหตุพบศพนายดอเลาะ สาแม อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/1 หมู่ 7 บ้านคลองปุด ต.บาละ อ.กาบัง เป็นโต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดบ้านคลองปุด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตคาที่ สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายดอเลาะขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากซื้อของ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายดักยิงเสียชีวิต
จ.ปัตตานีเหตุระเบิดรถเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร
ส่วนจ.ปัตตานี เวลา 08.40 น. พ.ต.ท.อุทัย ชัยมาลา สารวัตรเวร สภ.อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดรถเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ชุดลาดตระเวนคุ้มครองครู ที่บ้านตะโล๊ะสะมิแล หมู่ 2 ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง
จึงพร้อมด้วยพล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ปัตตานี และพ.ต.อ.มนัส ศิกษมัต ผกก.สภ.อ.ยะหริ่ง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดรุดไปยังที่เกิดเหตุ แต่ระหว่างทางพบวัตถุต้องสงสัย จึงเก็บกู้นำมาตรวจสอบพบเป็นวัตถุระเบิดจริง 1 ลูก และระเบิดปลอม 1 ลูก ทำให้เจ้าหน้าที่เสียเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าจะเข้าไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุได้
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอยู่ริมถนน พบหลุมระเบิดกว้าง 2 เมตร และพบรถจักรยานยนต์ตกอยู่ในหลุมพังยับเยิน พบศพนายแวมูฮัมมัดซอฟี หรืออิบรอฮิม หะยีบิดิง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/1 หมู่ 1 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง มีอาชีพขายข้าวและขนมในหมู่บ้าน
ห่างออกไปพบรถกระบะของเจ้าหน้าที่มีรอยกระสุนพรุนทั้งคัน พบนายสุไลมาน แวดาโอ๊ะ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด และสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขา, นายอิบรอเฮง มะเด็ง ถูกสะเก็ดระเบิดที่คอ, และนายบูยามิง เจ๊ะเอาะ ถูกสะเก็ดระเบิดที่ขา ทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่อส. จึงลำเลียงส่งร.พ.ปัตตานี
สอบสวนทราบว่า คนร้ายนำวัตถุระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 15 กิโลกรัม
บรรจุใส่ถังดับเพลิงซุกไว้ใต้ถนน แล้วลากสายไฟเข้าไปในป่าริมถนน เมื่อรถกระบะของเจ้าหน้าที่อส.กำลังลาดตระเวนตามหลังรถของคณะครูกว่า 20 คน คนร้ายจึงจุดชนวนระเบิดด้วยแบตเตอรี่
แต่รถของครูและอส.ผ่านไปก่อน จึงระเบิดถูกรถจักรยานยนต์ที่วิ่งตามหลังมา เป็นเหตุให้นายแวมูฮัมมัดซอฟี เสียชีวิตคาที่ จากนั้นคนร้ายอีกกลุ่มใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเจ้าหน้าที่เป็นเหตุให้บาดเจ็บ 3 นาย ก่อนจะพากันหลบหนีไป
วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายกิตติ วะสีนนท์ อธิบดีกรมสารนิเทศ แถลงว่า นายอับดุลลาห์ อาหมัด บาดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 11-13 ก.พ.
โดยมีจุดประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ และในวันที่ 12 ก.พ. จะประชุมหารือเต็มคณะเกี่ยวกับความร่วมมือแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาบุคคล 2 สัญชาติ
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด