เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ที่สน.บางกอกน้อย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น.
พ.ต.อ.เมธี รักษ์พันธ์ ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชนุ่ม ผกก.บางกอกน้อย พ.ต.ท.อดิเรก อติสัจจา สว.สส.สน.บางกอกน้อย พร้อมพ.ต.ท.ไพบูลย์ บุญยรัตน์ พนักงานสอบสวน สบ.2 สน.บางกอกน้อย เจ้าของคดี ร่วมประชุมหารือกรณีด.ต.สนิท ริ้วทองชุ่ม ผบ.หมู่จราจร สน.บางยี่ขัน ช่วยราชการ กก.สส.บก.น.7 ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน .38 ยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าร้านลาบร้อยเอ็ด ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28 หรือซอยวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กทม.
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่าย ไม่ว่าบก.สส.บช.น. บก.น.7
จัดกำลังออกติดตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิด คาดว่าน่าจะยังกบดานอยู่ในกรุงเทพฯ หากใครให้ที่พักพิงจะมีความผิดตามกฎหมาย และหากใครแจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ จะมีเงินรางวัลให้ 100,000 บาท
ทั้งนี้ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ และพล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ ผบ.ตร. สั่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
เบื้องต้นมีความช่วยเหลือต่างๆ ประมาณ 800,000 บาท พร้อมกับส่งเสียให้บุตร-ธิดาเรียนหนังสือจนจบ พร้อมเข้ารับเป็นข้าราชการตำรวจหากต้องการ พ.ต.ท.อดิเรก กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติคนร้ายยิงตำรวจเสียชีวิตรายนี้ คือนายบุญญฤทธิ์ หรือคิว ด้วงไพร ฉายาคิว โอรส อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 741 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด เมื่อปี 49 เคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ ปี 2552 ถูกจับกุมคดีครอบครองยาเสพติด และยังเป็นหนึ่งใน "แก๊งโอรส" ซึ่งมักจะก่อคดีลักทรัพย์ วิ่งราวเป็นประจำ ขณะนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พฤติกรรมของแก๊งโอรสมีส่วนคล้ายคลึงกับกรณีโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว ที่สมาชิกแก๊งมักสักลวดลายเต็มตัว ชอบถ่ายรูปกับอาวุธปืน โดยแก๊งโอรสได้จัดทำคลิปของตัวเองเผยแพร่ในเว็บไซต์ยูทูบด้วย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังเข้าจับกุมนายบุญญฤทธิ์ ได้ที่บ้านเลขที่ 262 ซอย 7 ชุมชนหมู่บ้านพุทธมณฑล
ถนนพุทธมณฑลสาย 2 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค จากการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก อาวุธสงครามชนิด เอ็ม 3 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 11 มม. 95 นัด และอุปกรณ์เสพยาเสพติดอีก 1 ชุด
จากการสอบสวน นายบุญญฤทธิ์ สารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังจะนำเงินค่ายาเสพติดไปให้กับนายตี๋
ซึ่งเป็นระดับหัวหน้าในแก๊งโอรส จากนั้นผู้ตายเข้ามาขอตรวจซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยตอนนั้นคิดเพียงอย่างเดียวว่าแก๊งฝั่งตรงข้ามซึ่งมักจะมาดักรอปล้นเงิน จึงควักปืนออกมายิง จากนั้นได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนชื่อนายปอ ให้ไปรอรับบนสะพานพระราม 8 ก่อนทิ้งอาวุธปืนขนาด .38 ลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วหลบมามายังบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของน้าสาว
ทั้งนี้เมื่อทราบข่าวว่าคนที่ตนยิงเสียชีวิตนั้นคือตำรวจ
จึงเกิดความกลัวและปรึกษาทางญาติว่าจะเข้ามามอบตัวแต่ก็มาถูกจับได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มมีอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย ดำเนินคดี