จับแก๊งโหดฆ่า2ศพ-ชิงรถมอเตอร์เวย์

"ฆ่า 2 ศพ ชิงรถกระบะ"


จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 05.00 น. นายชูเกียรติ มาเชื้อ อายุ 35 ปี เสี่ยรับเหมาก่อสร้างและนายกิติศักดิ์ ฉ่ำเอี่ยม อายุ 17 ปี สองน้าหลานถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตที่ถนนสายทางเชื่อมต่อระหว่างถนนมอเตอร์เวย์-บางนา-ตราด ก.ม.39 หมู่ 6 ต.บางวัว อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา แล้วคนร้ายได้ชิงเอารถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีดำ ทะเบียน บฉ 1820 สระแก้ว ของผู้ตายขับหนีไป

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่ห้องประชุม สภ.อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ระพีพัฒน์ ปาละวงศ์, พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.บวร นันทะยาวงศ์ ผบก.ภ.ฉะเชิงเทรา, พ.ต.อ.ฐณพล มณีภาค รองผบก.หน.ศสส.ภ.2, พ.ต.อ.วีระชัย วิสุทธิอุทัยกุล รอง ผบก., พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ เขมะชิต ผกก.สส.ศสส.ภ.2, พ.ต.อ.วิโรจน์ วัฒนาวงศ์ ผกก.สภ.อ.บางประกง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายบรรลือ สายเพชร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 6 ต.นาแต้ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ได้ที่บริเวณหน้า ม.บูรพา ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี คนร้ายแก๊งฆ่าชิงรถของนายชูเกียรติ มาเชื้อ และหลาน พร้อมด้วยของกลางรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน บฉ 1820 สระแก้ว รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ รุ่น 740 สีดำ ทะเบียน จต 4000 กทม. และอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.

จากการสืบทราบของเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทราบว่ารถยนต์ของนายชูเกียรติ ที่ถูกคนร้ายฆ่าแล้วชิงรถไปนั้นได้นำไปจอดไว้อยู่ที่บริเวณชายป่าในเขต อ.ขลุง จ.จันทบุรี จึงได้ตรวจยึดไว้และทำการสืบสวนจนทราบว่านายจังหวัด บ่อแก้ว อายุ 38 ปี, นายสวัสดิ์ บัวสาย อายุ 29 ปี, นายประกิจ เจริญนัด อายุ 39 ปี, นายทินกร ชัยยะ อายุ 41 ปี เป็นผู้นำรถยนต์คันดังกล่าวมาจอดทิ้งไว้

"ขับชนท้ายให้ลงมาดูแล้วจ่อยิง"


ต่อมาทั้ง 4 คนได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและให้การรับสารภาพว่า ได้รับรถคันดังกล่าวมาจากนายนัทธี หรือเท่ง อุปเวช อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.2 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด และนายบรรลือ สายเพชร ได้ร่วมกันใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อวอลโว่ออกตระเวนหาเหยื่อไปตามถนนสายต่างๆ จนกระทั่งในคืนเกิดเหตุพบรถผู้ตายกำลังขับอยู่จึงได้ทำทีชนท้ายเมื่อผู้ตายจอดรถลงมาดูความเสียหายในขณะที่ผู้ตายก้มดูอยู่นั้นนายนัทธี ได้ชักอาวุธปืนพกขนาด 9 ม.ม. ออกมายิงจนเสียชีวิตส่วนนายกิติศักดิ์ ฉ่ำเอี่ยม หลานผู้ตายพยายามจะวิ่งหนีนายนัทธีจึงยิงเข้าที่ด้านหลังจนล้มลงแล้วตามไปจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิตทั้งสองคน จากนั้นจึงนำรถของผู้ตายขับหนีไป

กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ม.ค เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 2 ได้สืบทราบว่านายนัทธี มือปืนโหดรายนี้ได้ขับรถยนต์เก๋งวอลโว่ จต 4000 กทม. คันที่ใช้ก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ในเขตอ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.บำเน็จณรงค์ เพื่อติดตามคนร้ายดังกล่าว จนเวลาประมาณ 17.30 น. จึงได้พบรถของนายนัทธี ขับอยู่ที่ถนนรุ่งเรืองศรี ในเขตเทศบาลบำเหน็จณรงค์ จึงได้สกัดเพื่อจับกุมแต่คนร้ายไหวตัวทันได้ขับรถหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามจนกระทั่งถึงทางแยกป่าสาธารณะโคกแดงน้อย หมู่ 10 ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ คนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้จอดรถแล้ววิ่งหลบหนีไปพร้อมกับผู้หญิงอีก 1 คน ที่นั่งมาด้วยกันไปทางทุ่งนาข้างทางห่างถนนลูกรังประมาณ 200 เมตร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อมเอาไว้และสามารถจับกุมตัวหญิงคนดังกล่าวเอาไว้ได้ทราบชื่อ น.ส.มณีรัตน์ วัฒนศรี อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.6 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ส่วนนายนัทธีเมื่อเห็นว่าจวนตัวไม่สามารถหลบหนีได้จึงใช้อาวุธปืน 9 ม.ม. ยิงที่หัวจนเสียชีวิตเพื่อหนีความผิด

"ยิงตัวตายหนีความผิด"


จากการตรวจค้นในตัวผู้ต้องหาพบแม็กกาซีนบรรจุเครื่องกระสุน ขนาด 9 ม.ม. จำนวน 15 นัด อยู่ในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย เครื่องกระสุนขนาด 9 ม.ม. อยู่ในกระเป๋าหนังสีดำ 28 นัด อยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังขวา และที่ข้างศพผู้ตายพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก

พล.ต.ท.อัศวิน กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญของประชาชนที่ใช้เส้นทางสัญจรไปตามถนนหลวงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์และฆ่าเหยื่อไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือเด็กโดยไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อนเพียงเพื่อประสงค์ทรัพย์เท่านั้น จึงได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทุกหน่วยในภาค 2 เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาให้ได้เพราะเกรงว่าคนร้ายจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกได้ จนกระทั่งจับกุมได้ยกแก๊งในครั้งนี้เชื่อว่าประชาชนที่ใช้ถนนหลวงสัญจรได้อย่างปลอดภัยขึ้น

"ส่วนผู้หญิงที่ไปกลับนายนัทธี คนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงตัวตายเพื่อหนีความผิดนั้นจากการสอบสวนแล้วไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงปล่อยตัวไป และก็ขอเตือนสำหรับประชาชนที่ใช้สายมอเตอร์เวย์ในยามค่ำคืนถ้าเจอในลักษณะเดียวกันพยายามอย่าจอดรถในที่เกิดเหตุควรจะขับไปจนถึงด่านแล้วจึงลงมาตรวจสอบความเสียหายของรถจะได้ไม่เกิดอันตราย" ผบช.ภ.2 กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์