ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. 55
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล , พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ. 3 พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงจับกุมขบวนการโกงสอบตำรวจเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผู้ต้องหา 5 ราย ทั้งหมดเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ คือ 1. นางเตือนใจ พงษ์พันธ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555/37 หมู่ที่ 10 ต.โพธิ์ อ.เมือง 2. นายธนากร วิเศษ อายุ 36 ปี 3. นางศตพร วิเศษ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 9 ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย 4. นายปัญญาศักดิ์ นิลเพ็ชร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 ม.5 ต.ศรีแก้ว และ 5. นายสมชาย แสงทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 4 ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย
พร้อมเงินสดที่เรียกรับเงินจากผู้สมัครเข้าสอบคัดเลือกรวม 10 ล้าน 5 แสนบาท
เอกสารประจำตัวผู้สมัครสอบ วิทยุสื่อสารติดซิมโทรศัพท์ ที่ใช้เป็นตัวกระจายสัญญาณ 2 เครื่อง และแผงวงจรอิเล็คทรอนิกส์ตัวรับสัญญาณ ที่ยึดได้จากตัวผู้สมัครเข้าสอบแข่งขันจำนวน 22 ชุด ทั้งหมดตรวจยึดได้จากผู้สมัครสอบ 20 ราย จากสนามสอบทั่ว จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ยังจับกุม นายสิรภพ ทองรับแก้ว อายุ 19 ปี บ้านเลขที่ 86/252 หมู่ที่ 2 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ใช้บัตรประจำตัวปลอมเข้าสอบแทนคนอื่น
ทั้งนี้ในวันเวลาสอบ ตำรวจที่ทำหน้าที่กรรมการคุมสอบในอาคาร 2 ร.ร.สุขานารี ตรวจค้นตัวผู้สมัครสอบรายหนึ่งที่เข้าสอบช้า
พบเครื่องมือสื่อสารลักษณะเป็นเครื่องรับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์แบบประดิษฐ์ขึ้นเอง ปิดเทปกาวซุกประเป๋าสะพาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ซึ่งมีคำสั่งให้ดูพิรุธผู้เข้าสอบทุกคนในทุกสนาม เมื่อสอบเสร็จ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นผู้ที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย พบเครื่องมือสื่อสารซุกซ่อนอยู่ในตัว และถูกทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ จำนวนกว่า 22 ชิ้น โดยพบใน 3 สนามสอบ ควบคุมผู้ที่ต้องสงสัยว่าจะทุจริตสอบได้รวม 20 คน
สอบสวนทราบว่า ขบวนการทุจริตสอบมาจาก จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 30 คน ขึ้นรถตู้มา 3 คัน พักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองโคราช
โดยแจกอุปกรณ์สื่อสาร เพื่อให้ทุจริตสอบกันในช่วงเช้า และแยกย้ายกันเข้าห้องสอบ วิธีการจะส่งสัญญาณเป็นคลื่นสั่นเป็นรหัสการตอบข้อสอบ ตำรวจจึงเข้าจับกุมได้ 5 ราย ในโรงแรมที่พัก ยึดแผงวงจรมาตรวจสอบ ทราบว่า นางเตือนใจ เป็นอาจารย์ สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดศรีสะเกษ และเป็นอาจารย์สอนพิเศษ จึงรู้จักมักคุ้นกับนักเรียนจำนวนมาก และรู้จักกับคนหนึ่งแต่ไม่ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ใด ที่อ้างว่าสามารถทุจริตการสอบรับข้าราชการตำรวจได้ จึงกระจายข่าวผ่านบรรดาญาติพี่น้องและเด็กนักเรียนในเครือข่าย ว่าสามารถดำเนินการโกงสอบตำรวจในครั้งนี้ได้ โดยเรียกรับเงินจำนวน 350,000 บาทต่อราย จ่ายเงินค่ามัดจำก่อน 10,000 - 30,000 บาท ส่วนที่เหลือจ่ายหลังสอบผ่าน ถ้าสอบไม่ผ่านจะคืนเงินให้ทั้งหมด มีผู้ใช้บริการรวม 150 ราย
สำหรับวิธีการ จะนำเด็กมาอบรมสอนวิธีใช้เครื่องก่อนเข้าสอบ 1 วัน
จากนั้นก็จะพกเครื่องกระจายสัญญาณไปตามสนามสอบต่าง ๆ เนื่องจากกระจายสัญญาณได้ในรัศมีเพียง 300 เมตรเท่านั้น ส่วนผู้เข้าสอบจะนำเครื่องรับสัญญานซุกซ่อนในกางเกงชั้นใน ส่วนตัวผู้ส่งรหัสสัญญาณไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด
ผู้สมัครเข้าสอบคนหนึ่ง กล่าวว่า ได้รับนัดแนะใช้รหัสการสั่นของเครื่องรับสัญญาณและยังมีวิธีการสำรองในกรณีฉุกเฉิน
ด้วยการให้นับสระและวรรณยุกต์ของคำถาม เพื่อนำมาถอดรหัสอีกทอดให้ได้เป็นตัวเลข ส่วนการสั่นของตัวรับสัญญาณนั้นถึงแม้ว่าข้อสอบจะถูกแบ่งเป็น 8 ชุด แต่ทั้งหมดเป็นข้อสอบเดียวกัน เพียงแค่สลับวิชาแตกต่างกันเท่านั้น ผู้ส่งสัญญาณจะเรียงวิชาตามที่ตัวเองกำหนดไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และมีเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ส่วนผู้สอบทั้งหมดถูกกันเป็นพยาน และต้องปล่อยตัวไปเนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะเอาผิด