เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 31 ม.ค. ร.ต.ท.สรรพสิทธิ์ บุ่งทวย พงส. (สบ.1) สน.ตลาดพลู รับแจ้งเหตุแม่ชีถูกฆาตกรรมภายในวัดกันตทาราราม หรือวัดใหม่จีนกัน ซอยรัชดา-ท่าพระ 14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี
เปรียญ7ประโยค ฆ่าแม่ชี70 ทุบหัวสยองคากุฏิ
เจ้าหน้าที่ไปตรวจจุดเกิดเหตุ
จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง ผกก.สส.น.8 พ.ต.อ. อัศวิน วิไลศิริ ผกก.สน.ตลาดพลู เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุอยู่ด้านหลังกุฏิติดกับกำแพงเก็บอัฐิ ภายในวัด
พบศพแม่ชีกัญญา หรือบ๊วย บุญมาโนชวัฒนา อายุ 70 ปี นอนหงายเลือดท่วมตัว บริเวณขมับขวา กกหูขวาและใต้คางมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งแตกเป็นแผลยาว ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังตรวจชันสูตรพลิกศพ โดยใช้เชือกกันจุดเกิดเหตุจากกุฏิที่พบศพไปยังกุฏิอาคารเชื้อพิบูลย์-ประชาสรรค์ ของพระมหาอนุสรณ์ อภิวฑฺฒโน หรือพระกอล์ฟ แดงทองคำ อายุ 22 ปี พระลูกวัดที่อยู่ใกล้กัน
ปรากฏว่าพระมหาอนุสรณ์ได้เปิดประตูกุฏิออกมาท่าทางเลิ่กลั่กผิดสังเกต จากนั้นฝ่าวงล้อมของตำรวจถลกจีวรปีนกำแพงวัดวิ่งหลบหนีแบบไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจเอะใจ จึงวิ่งไล่กวดตามไปจนทัน บริเวณหน้าบ่อตกกุ้งร่มไทร ถนนรัชดา-ท่าพระ ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.
ขณะขึ้นไปนั่งอยู่บนรถสี่ล้อเล็กวิ่งระหว่างดาวคะนอง-วัดสิงห์
เมื่อสอบสวนเบื้องต้น พระมหาอนุสรณ์รีบปฏิเสธพัลวันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของแม่ชี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ เพราะแสดงอาการมีพิรุธร้อนรน จึงควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในกุฏิ พบรอยเลือดเปรอะพื้นกุฏิห้อง
ตามผนังและเพดาน นอกจากนี้ ยังพบรอยเลือดลากเป็นทางยาวจากกุฏิไปยังจุดที่พบศพ ส่วนภายในห้องพบวีซีดีโป๊ 1 แผ่น หนังสือฟุตบอล 1 เล่ม ในห้องน้ำพบจีวรเปื้อนเลือดแช่ อยู่ในกระป๋อง รวมทั้งพบพลั่วเหล็กเปื้อนเลือดซ่อนอยู่ ใต้เก้าอี้ข้างกุฏิ เมื่อจำนนต่อหลักฐาน พระมหาอนุสรณ์ถึงกับหน้าถอดสี ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือสังหารโหดแม่ชีบ๊วยด้วยน้ำมือตัวเอง สาเหตุเพราะบันดาลโทสะ
หลังจากยอมจำนน
พระมหาอนุสรณ์เปิดเผยความเป็นมาว่า บวชมา 7 ปี ตั้งแต่เป็นเณรอายุ 15 ใฝ่ศึกษาธรรมะจนสอบได้เปรียญธรรม 7 ประโยค ได้เป็นอาจารย์ สอนปริยัติธรรมแก่พระบวชใหม่ที่วัดกันตทาราราม ส่วนแม่ชีบ๊วยมาอาศัยที่วัดได้ประมาณ 6 เดือน ระหว่างที่จำพรรษามักถูกแม่ชีบ๊วยพูดจาถากถางทำนองว่า อายุยังน้อยน่าจะไปประกอบอาชีพอื่นที่ดี เจริญก้าวหน้ากว่านี้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนมาระยะหลัง
เมื่อเจอหน้าทุกครั้ง แม่ชีก็จะพูดจาทำนองนี้อยู่เรื่อยๆทำให้รู้สึกไม่พอใจ เป็นอย่างมาก แต่ก็เก็บความรู้สึกเอาไว้ในใจ กระทั่งเมื่อคืนเวลา 01.30 น. เปิดไฟนั่งอ่านหนังสือในกุฏิ แม่ชีบ๊วยมาเคาะประตู ตะโกนถามว่าดึกดื่นแล้วทำไมยังไม่นอนอีก หนำซ้ำยังพูดภาษาจีนด่าทำนองเสียหาย ทำให้ โมโหสุดขีด เปิดประตูกุฏิออกไปชกหน้าของแม่ชีอย่างแรงจนล้มคว่ำกองกับพื้น
แต่ยังไม่หายโกรธแค้นลากร่างเข้าไปในกุฏิ แล้วคว้าพลั่วเหล็กฟาดกระหน่ำไปบนใบหน้าหลายครั้งจนแน่นิ่งคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงลากไปทิ้งหน้ากุฏิห้องพักของแม่ชี จากนั้นกลับมาทำความสะอาดกุฏิ เปลี่ยนจีวรแช่น้ำเตรียมซัก แต่เมื่อเห็นตำรวจไปตรวจสอบที่กุฏิ เกิดตกใจกลัวความผิดที่กระทำลงไป ทำให้ต้องวิ่งหนี โดยระหว่างสอบปากคำพระมหาอนุสรณ์
พยายามอ้างว่ามีเด็กวัดร่วมก่อเหตุด้วย แต่ตำรวจสอบ พยานแวดล้อมแน่ชัดแล้ว พระมหาอนุสรณ์ก่อเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อฆ่าคนตายโดยเจตนา จากนั้นนำตัวไปสึกที่ สน.
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพระลูกวัดหลายรูป
ทราบว่าพระกอล์ฟไม่ชอบสุงสิงกับใคร และเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ได้มีครูโรงเรียนวัดกันตทารารามเข้ามาถามหาตัวพระรูป เนื่องจากสงสัยว่าจะเข้าไปขโมยเงินในห้องพักของครูเวร ภายหลังจากพระกอล์ฟเข้าไปขอถ่ายเอกสารภายในห้องพักครูแล้ว
ปรากฏว่าเงินของครูเวรหายไป 5,000 บาท ครูเจ้าของเงินจึงมาคาดคั้นกับพระกอล์ฟ แต่ทางพระกอล์ฟไม่ยอมรับว่าขโมยไป ทำให้ครูเวรไม่พอใจ สาปแช่งพระกอล์ฟต่างๆนานา และขอให้มีอันเป็นไป ท่ามกลางพระลูกวัดที่มายืนมุงดูเป็นจำนวนมาก
ขอขอบคุณ
ข้อมูลที่มีคุณภาพ
จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ