เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 มิ.ย. พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูตร ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ พ.ต.ท.จิระศักดิ์ มหึเมือง รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองนครสวรรค์
นำตัวนายสมเกียรติ์ พูลเลิศ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220/1 ม.2 ต.บ้านใหม่ไชยมงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ผู้ต้องหาคดีปล้นรถบรรทุกน้ำมันปตท. ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-7329 นครสวรรค์ พ่วงน้ำมันหมายเลข 70-7330 นครสวรรค์ บรรทุกน้ำมันดีเซล 42,000 ลิตร ของบริษัท เยื่อสี่แคว ขนส่ง จำกัด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณจุดเกิดเหตุใต้สะพานลอย สี่แยกนวมินทร์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงเสร็จสิ้น จากนั้นนำตัวคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตอน 5 ทุ่มของวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.เมืองนครสวรรค์ รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นรถบรรทุกน้ำมันจากบริเวณใต้สะพานลอย
สี่แยกนวมินทร์ อ.เมืองนครสวรรค์ พ.ต.ท.จิระศักดิ์ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมวิทยุสกัดจับตามเส้นทาง ในที่เกิดเหตุพบนายสายหยุด แม้นพยัคฆ์ คนขับรถน้ำมัน และนางจินตนา แม้นพยัคฆ์ อายุ 38 ปี ภรรยาที่นั่งมาด้วย รอให้การอยู่ด้วยความตื่นตระหนก โดยนายสายหยุดกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ขับรถบรรทุกน้ำมันมาจากจ.สระบุรี จะไปส่งที่อ.เด่นชัย จ.แพร่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุจอดพักรถ และลงไปซื้ออาหาร ปรากฏว่ามีคนร้ายคือนายสมเกียรติ์ใช้อาวุธปืนขู่ก่อนเปิดประตูรถเข้าไปขับรถออกไปหน้าตาเฉย ซึ่งรถที่ขับมามีเครื่องติดตามจีพีเอสติดตั้งไว้ด้วย
หลังเกิดเหตุพ.ต.ท.จิระศักดิ์ สั่งสกัดจับคนร้ายพร้อมจับสัญญาณจากเครื่องจีพีเอสดังกล่าว
พบว่าคนร้ายขับรถบรรทุกมุ่งหน้าไปยังบริเวณทางแยกเข้าโรงงานน้ำตาลรวมผล แยกดอนดู่ ต.บ้านมะเกลือ อ.เมืองนครสวรรค์ จึงออกติดตาม เมื่อไปถึงพบแต่พ่วงท้ายบรรทุกน้ำมันถูกถอดทิ้งไว้ข้างทาง ส่วนหัวลากคนร้ายขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงกลับมาสอบปากคำผู้เสียหายยังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง กระทั่งจู่ๆ ก็พบนายสมเกียรติ์ ขับรถหัวลากย้อนกลับมาที่เดิม จอดติดสัญญาณไฟจราจรบริเวณสี่แยกนวมินทร์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมเอาไว้ได้อยู่หมัด
สอบสวนนายสมเกียรติ์ ให้การรับสารภาพว่า ลงมือปล้นรถน้ำมันจริงเพราะตกงาน
ก่อนเกิดเหตุแวะกินก๋วยเตี๋ยวบริเวณใต้สะพานลอย เห็นผู้เสียหายจอดรถแวะซื้อของ จึงใช้อาวุธปืนจี้ชิงรถขับออกไปแวะปลดพ่วงท้ายกลางทาง หวังจะย้อนกลับมาแอบถ่ายน้ำมันขายในภายหลัง แต่ด้วยเพราะไม่ชำนาญเส้นทาง จึงขับรถหัวลากวกกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง จนกระทั่งถูกจับ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของคนร้าย สงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งค้าน้ำมันเถื่อนและทำเป็นขบวนการใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนขยายผลต่อไป