จับแท็กซี่-แค้นมีกิ๊กฆ่าเผาเมียนักร้อง!

โชเฟอร์แท็กซี่ฆ่าเผาเมียนักร้องตายคาห้องพักย่านเตาปูนหนีไปมอบตัวที่ปะคำ บุรีรัมย์ ผบก.น. 2 คุมตัวมาแถลงระบุสืบทราบว่าหนีไปกบดานกับญาติเลยส่งกำลังตามไปกดดันจนยอมมอบตัว สารภาพเหตุที่ฆ่าเพราะจับได้ว่าเมียนักร้องแอบไปมีกิ๊ก วันเกิดเหตุทะเลาะกันแล้วเมียด่าทออย่างรุนแรงด้วยความหยาบคายไปถึงบุพการี เลยรัดคอด้วยอารมณ์ชั่ววูบก่อนนอนกอดศพไว้ทั้งคืน ส่วนเรื่องไฟไหม้น่าจะมาจากจุดธูปเทียนเพื่อขอขมาศพก่อนออกไปขับแท็กซี่ตามปกติ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 ม.ค. ที่บก.น. 2 พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รองผบก.น. 2 ร่วมแถลงผลการจับกุมนายสมาน หรือมล สุรายรัมย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ม.19 ต.หูทำนบ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่น และปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพหรือส่วนของศพ ตามหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 29 ม.ค.2550 หลังก่อเหตุฆ่านางวิภา สาลีพวง ภรรยา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 26 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.เตาปูนรับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 558 ห้อง 5 ซ.เดลี่เบลล์ ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้ ภายหลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่พบศพนางวิภานอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักลักษณะถูกเพลิงไหม้

ผบก.น.2 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายและนายสมานมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน กระทั่งต่อมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในห้องพัก ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและจากพยานหลักฐานน่าเชื่อว่านายสมานลงมือฆ่านางวิภาจนถึงแก่ความตายก่อน จากนั้นใช้ผ้าห่อศพและใช้ไฟเผาเพื่ออำพรางคดี เจ้าหน้าที่จึงออกหมายจับผู้ต้องหาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2550 ข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบัง การตาย หรือเหตุแห่งการตาย

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่บ้านญาติจ.บุรีรัมย์ จึงส่งกำลังติดตามตัวกระทั่งผู้ต้องหายอมเข้ามอบตัวกับตำรวจสภ.อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าลงมือฆ่านางวิภา ภรรยา จนเสียชีวิต โดยใช้ผ้าขนหนูรัดคอ หลังมีปากเสียงกัน แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เผาศพเพื่ออำพรางคดี โดยให้การว่าหลังจากฆ่าภรรยาเสียชีวิตแล้วก็ได้ใช้ผ้าห่มห่อศพไว้ และนอนกอดศพทั้งคืน กระทั่งวันรุ่งขึ้นได้จุดธูปเทียนขอขมาภรรยา ก่อนออกไปขับรถรับส่งผู้โดยสารตามปกติ

ผบก.น.2 กล่าวว่า กระทั่งกลับเข้ามาที่ห้องพักพบเพลิงกำลังลุกไหม้ จึงหลบหนีไปพักตามบ้านญาติก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด อย่างไรก็ตาม ข้อหาปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพต้องขึ้นอยู่กับผลการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นอย่างไร ถ้าพบว่าไม่ได้เกิดจากการจงใจจุดไฟเผาก็จะไม่แจ้งข้อหาทำลายศพ

ด้านนายสมาน โชเฟอร์แท็กซี่ ผู้ต้อหาคดีฆ่าแล้วเผาภรรยาตัวเอง ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ฆ่าภรรยามาจากความหึงหวง หลังจากจับได้ว่าภรรยาซึ่งเป็นนักร้องอยู่ร้านอาหารย่านเตาปูน แอบไปมีกิ๊ก ก่อนเกิดเหตุมีปากเสียงทะเลาะกัน แล้วภรรยาด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายไปถึงบุพการีจึงเกิดบันดาลโทสะ ใช้ผ้าห่มรัดคอขณะภรรยานั่งหันหลังให้จนเสียชีวิต เมื่อภรรยาเสียชีวิตแล้วเกิดรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ จึงใช้ผ้าห่อศพไว้จากนั้นนอนกอดศพทั้งคืน เพราะเสียใจและรู้สึกรักภรรยามาก กระทั่งศพเริ่มมีกลิ่นจึงจุดธูปเทียนขอขมาศพปักไว้บนที่นอนตรงปลายเท้าศพ แล้วออกไปขับรถแท็กซี่ตามปกติ

นายสมาน กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 02.30 น. กลับมาที่ห้องพบว่าเกิดเพลิงไหม้และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่เกิดเหตุ ด้วยความตกใจและเกรงกลัวความผิดจึงหลบหนีไปพักอยู่ตามบ้านญาติ ก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวกับตำรวจปะคำ จ.บุรีรัมย์

นายสมาน กล่าวอีกว่า ตนรักภรรยาคนนี้มาก โดยแต่งงานอยู่กินด้วยกันมาประมาณ 5 ปี มีบุตร 1 คน ตอนนี้ลูกอยู่กับแม่ยายที่จ.ศรีสะเกษ ส่วนตนขับรถแท็กซี่มาได้กว่า 10 ปีแล้วตั้งแต่ช่วงพิษเศรษฐกิจ เคยได้รับรางวัลแท็กซี่ดีเด่นจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อปี 2546 เนื่องจากเก็บเงินที่ผู้โดยสารชาวต่างชาติลืมไว้ในรถจำนวนกว่า 300,000 บาท ส่งคืนที่รายการ สวพ.91 นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลจากหลายหน่วยงาน สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องยอมรับว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว พล.ต.ต.อำนวยพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายสมาน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเกิดเหตุ โดยมีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมามุงดูเป็นจำนวนมาก ต่างพากันทักทายนายสมานและแสดงความเสียใจ ส่วนใหญ่รู้สึกเห็นใจและสงสารนายสมานเนื่องจากเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี