จับคาห้องโรงแรมเมืองคอน2นร.กาม

"เปิดห้องเข้าไปพบ เปลือยกายอยู่บนเตียงทั้งคู่"


บุกจับ 2 น.ร.เมืองคอนเปิดห้องโรงแรมมั่วกามทั้งที่อยู่ในชุดนักเรียน พลเมืองดีทนไม่ได้ แจ้งสารวัตรนักเรียนนำตร.บุกจับคาห้อง ฝ่ายหญิงอายุแค่ 14 สารภาพขอเงินพ่อแม่ อ้างไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน แต่กลับนำมาจ่ายเป็นค่าเปิดห้อง ร่วมหลับนอนกัน พ่อแม่สุดเศร้า พยายามตบตีเพื่อสั่งสอน เจ้าหน้าที่ห้ามไว้ทัน หลังอบรมแล้วปล่อยตัวไป

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 30 ม.ค. นายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าศูนย์ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนนักศึกษา (สารวัตรนักเรียน) จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีนักเรียนหญิงชั้นมัธยมต้น แต่งกายชุดนักเรียน และนักศึกษาชายแต่งกายแบบนักเรียนวิชาชีพจำนวน 2 คนเข้าไปเปิดห้องพักในโรงแรมบัวหลวง ซ.บัวหลวง ถ.ยมราช ต.คลัง อ.เมือง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช เข้าตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง สอบถามพนักงานทราบว่ามีเด็กนักเรียนชายหญิงเข้ามาเปิดห้องจริง โดยเปิดห้องพักชั่วคราวที่ห้อง 502 ชั้น 5 ของโรงแรม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบห้องหมายเลขดังกล่าว โดยใช้กุญแจสำรองเปิดประตูห้องเข้าไป พบเด็กทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง เจ้าหน้าที่จึงให้สวมใส่เสื้อผ้า โดยฝ่ายชาย ชื่อนาย เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ปวส.1 ช่างก่อสร้าง โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในเมืองนครศรีธรรมราช ส่วนฝ่ายหญิง ชื่อด.ญ. บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง นอกจากนี้พบแผงยาคุมกำเนิดมีรอยแกะไปแล้ว 3 เม็ด จากนั้นนำเด็กทั้งสองไปสอบปากคำที่สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช

"ขอเงินพ่อแม่อ้างเป็นค่าใช้จ่ายที่โรงเรียน แต่กลับมาเปิดห้องโรงแรม"


เด็กทั้งสองให้การว่า นัดหมายกันออกจากบ้านในช่วงเช้าโดยแต่งกายชุดนักเรียน ทำทีมาเรียนตามปกติ โดยขอเงินจากพ่อแม่ บอกว่ามาเสียค่าใช้จ่ายที่โรงเรียน 400 บาท แต่ไม่ได้เข้าเรียน จากนั้นพากันมาเปิดโรงแรมดังกล่าว ราคา 350 บาท เพื่อหลับนอนกัน กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดังกล่าว

ต่อมานายสมพงศ์นำตัวทั้งคู่ไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 และโทรศัพท์ติดต่อผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย และครูฝ่ายปกครองของสถานศึกษาต้นสังกัดทั้งสองฝ่ายมารับทราบพฤติกรรม และรับตัวกลับไป

สำหรับผู้ปกครองของฝ่ายหญิงนั้น บิดาเป็นนายทหาร และมารดาเป็นครู เมื่อมาถึง พ่อแม่จะเข้าไปตบตี เนื่องจากเสียใจกับพฤติกรรมของบุตรสาว เจ้าหน้าที่ต้องห้ามปรามอย่างจ้าละหวั่น และปลอบให้คลายความโกรธ ก่อนรับตัวบุตรสาวกลับไป

นายสมพงศ์ เปิดเผยว่า เดิมผู้ปกครองไม่เชื่อ เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งไปให้ทราบ แต่เมื่อผู้ปกครองไปติดตามที่โรงเรียน ทางโรงเรียนแจ้งว่า บุตรสาวไม่ได้ไปเรียน จึงติดตามมาและพบกับความจริง และอยากให้ผู้ปกครองรายอื่นๆ คอยติดตามบุตรหลานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบันนั้นมีสิ่งเร้าที่ทำให้บุตรหลานมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการเสียอนาคตได้ง่ายมาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์