รวบแล้วแคระจอมโหด รัดคอข่มขืนฆ่าเปลือย พนักงานสาว´จิวเวลรี´

กรณีมีผู้พบศพ น.ส.มัทนพร จันทร์ทอง วัย 29 ปี พนักงานขายจิวเวลรีบริษัทยูหลิง จำกัด ถนนเจริญกรุง กทม. เป็นศพถูกฆ่ารัดคอตายเปลือยในพงหญ้าห่างจากถนนสายนครปฐม-นครชัยศรี หมู่ 4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี เข้าไปประมาณ 300 เมตร เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นจากการตรวจสอบคาดว่าน่าจะถูกคนร้ายลวงมาขืนใจก่อนฆ่าปิดปาก โดยมีพยานระบุว่า เห็นผู้ตายลงรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-นครปฐม มากับชายรูปร่างเตี้ยแคระก่อนจะหายเข้าไปในป่าละเมาะข้างทางและกลายเป็นศพในที่สุด ส่วนชายรูปร่างเตี้ยแคระหายไปอย่างลึกลับนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมฆาตกรโหดรายนี้ได้แล้ว

โดยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 30 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นำหมายศาล จังหวัดนครปฐมเข้าประสานกับทาง สภ.อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 14 หมู่ 15 ต.จุมจัง อ.กุฉินารายณ์ จับกุมนายกงใจ ไชยหนองแข้ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆ่า น.ส.มัทนพร จันทร์ทอง คุมตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.อ.นครชัยศรี โดยมี พล.ต.ต.สุชัย สุขพันธ์โพธาราม รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.เรวัช กลิ่นเกสร รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.7 และ พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ ผกก.สภ.อ.นครชัยศรี ร่วมกันสอบปากคำจนถึงเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ถึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่าเป็นคนสังหาร น.ส.มัทนพรจริง

นายกงใจให้การว่า เมื่อ 10 ปีก่อน เคยมาทำงานอยู่ใน จ.นครปฐม เริ่มต้นด้วยการเป็นนักร้องตามห้องอาหารต่างๆ ก่อนจะขยับไปร่วมแสดงตลกคณะ ยิ้มแป้น และเคยแสดงเป็นตัวประกอบในละครจักรๆวงศ์ๆหลายสิบเรื่อง แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น เนื่องจากตัวเองเป็นคนเตี้ยแคระ สูงเพียง 145 ซม. ไม่มีใครสนใจ หรือจริงใจด้วย หลังจากตกอับก็หันมายึดอาชีพหมอดูและหมอทำเสน่ห์ ให้กับพวกนักร้องและหมอนวดสาวๆ จึงมีโอกาสได้รู้จักกับ น.ส.มัทนพร ผู้ตาย ซึ่งมีเพื่อนเป็นนักร้องในห้องอาหารแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เคยพามาให้ช่วยดูลายมือตรวจดวงชะตาให้ประมาณ 4-5 ครั้ง ผู้ตายจะเรียกตนว่า หมอเตี้ย และมีความสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน โดยผู้ตายอยู่ อ.ร่องคำส่วนตนอยู่ อ.กุฉินารายณ์ ภายหลังเริ่มหากินฝืดเคืองจึงหวนกลับไปอยู่บ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 1 ปี แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ตัดสินใจย้อนกลับมาที่ จ.นครปฐม เพื่อยึดอาชีพหมอดูและหมอทำเสน่ห์อีกครั้งหนึ่ง

นายกงใจ กล่าวต่อไปว่า นั่งรถโดยสารจาก จ.กาฬสินธุ์ มาถึงสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ เช้าวันที่ 22 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ จากนั้นก็นั่งรถเมล์ต่อจะไปลงที่ขนส่งสายใต้ใหม่เพื่อจะนั่งรถไป จ.นครปฐม ระหว่างทางได้พบกับผู้ตายโดยบังเอิญ ผู้ตายเข้ามาทักทายและชวนพูดคุยบ่นว่ากำลังมีปัญหาในชีวิต จึงเอ่ยปากชวนให้ตามไปที่ จ.นครปฐม เพื่อจะดูลายมือตรวจดวงชะตาให้ โดยนั่งรถโดยสาร ป.2 สายกรุงเทพฯ-นครปฐม หมายเลข 83 จำทะเบียนไม่ได้ไปลงตรงจุดเกิดเหตุ ขณะเดินเข้าไปในซอยตนเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างรุนแรง ประกอบกับผู้ตายเอ่ยปากขอยืมเงิน 1,000 บาท จึงเสนอเงื่อนไขขอร่วมหลับนอนกับผู้ตายและดูลายมือให้เป็นการแลกเปลี่ยน ผู้ตายยอมตกลงจึงเดินจูงมือเข้าไปป่าละเมาะข้างทาง ระหว่างที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มผู้ตายเกิดเปลี่ยนใจร้องโวยวายขึ้นมา จึงบันดาลโทสะคว้าสายกระเป๋าสะพายของผู้ตาย ซึ่งเป็นโซ่เส้นเล็กๆชุบทองรัดคอจนหมดสติแน่นิ่งไป จากนั้นก็ลงมือขืนใจต่อจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลังจากแต่งตัวเสร็จก็เข้าไปปลุกผู้ตายถึงได้รู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว รีบนั่งรถหนีกลับมากบดานที่บ้านใน จ.กาฬสินธุ์ จนกระทั่งตำรวจตามไปจับกุมตัวดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ ผกก.สภ.อ.นครชัยศรี กล่าวถึงเบื้องหลังการจับกุมคนร้ายรายนี้ว่า หลังจากที่ญาติๆของ น.ส.มัทนพรเข้ามาพบกับทางตำรวจก็ให้เบาะแส สำคัญว่า ผู้ตายรู้จักกับชายรูปร่างแคระคนหนึ่งมีอาชีพเป็นหมอดูลายมือ ชื่อนายกงใจ หรือหมอเตี้ย แต่ไม่ทราบ นามสกุล สอดคล้องกับคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ เมื่อนำรูปถ่ายของผู้ต้องหามาให้พยานดูก็ยืนยันตรงกันว่า เป็นคนเดียวกับที่เห็นลงจากรถพร้อมผู้ตายในวันเกิดเหตุ จึงออกสืบหาและตามไปจับตัวดังกล่าว ส่วนจะเป็นการสมยอมของผู้ตายเองหรือถูกบังคับขืนใจนั้น จะต้องรอผล การตรวจพิสูจน์ศพและบาดแผลตามร่างกายอีกครั้งก่อน

ต่อมา เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.นครชัยศรี ได้คุมตัวนายกงใจไปทำแผนประกอบคำ รับสารภาพตรงจุดพบศพ ท่ามกลางบรรดาไทยมุงกว่า 200 คน ส่งเสียงตะโกนสาปแช่งไม่ขาดสาย ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงเสร็จสิ้นก่อนจะคุมตัวกลับไปขังไว้ที่โรงพักเพื่อ รอส่งผัดฟ้องฝากขังศาลในวันที่ 31 ม.ค. นี้ โดยจะยื่น คัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าอาจจะหลบหนี